- มันกุ้งแม่น้ำ ที่ได้จากการย่างกุ้งแม่น้ำ ในหม้ออบลมร้อน รอให้หายร้อน แล้วเทใส่ถาดน้ำแข็ง เก็บแช่แข็ง นำมาทำกุ้งอบวุ้นเส้นได้อร่อยมาก ใช้ 2 ก้อน ต่อ 1 จาน
- ไม้เสียบหมูย่าง ให้แช่น้ำ 20 นาที ก่อนนำมาเสียบหมูย่าง เพราะจะทำให้เวลาย่างไม้จะไม่ไหม้
- ไม่ควรต้มกาแฟใส่น้ำตาล แล้วเก็บในตู้เย็น เพราะ น้ำตาลจะทำให้กาแฟเปรี้ยว ควรต้มเฉพาะกาแฟเก็บไว้ก่อน แล้วค่อยเติมน้ำตาลเฉพาะเวลาก่อนทานเท่านั้น กาแฟของไทย ที่รสชาติดี หอมเหมือนกินกาแฟสด ได้แก่ กาแฟ ยี่ห้อ FESTA และ อเมริกาโน่ ยี่ห้อ กิฟฟารีน
- กะทิ ตรา พร้าวหอม เทใส่ถาดน้ำแข็ง แช่แข็ง หยิบกะทิ 1 ก้อนเล็กๆ ใส่ในกาแฟเย็น 1 แก้ว ใส่ตอนกาแฟร้อนๆ จะทำให้กาแฟเย็น มีรสนุ่มนวลขึ้น
- ไก่ ต้องคลุกเกลือทะเล ถูๆ บริเวณหนัง ล้างน้ำ ทำ 2 รอบ เพื่อล้างคาวไก่ออก ให้เช็คกลิ่นด้วยการดม ก่อนปรุงอาหารเสมอ ไม่เช่นนั้นจะทำอาหารไม่อร่อย ไม่ควรใช้เกลือปรุงทิพย์เพราะโซเดียมสูงจัดเกินไป
- ไม่ควรใช้เกลือปรุงทิพย์ ทำอาหาร เพราะ เวลาโดนมะนาวจะขม ถ้าใช้เกลือปรุงทิพย์ทำอาหารรสชาติจะไม่อร่อยเท่าเกลือทะเล หรือ ดอกเกลือ เกลือทะเลที่ดีจะมีรสเค็มนัวๆ อมหวานตามธรรมชาติ
- ผัก เช่น ผักชี, คึ่นไช่ หรือ ขึ้นฉ่าย, ต้นหอม, มะเขือเทศ, ถั่วฝักยาว เลือกที่ไม่มีจุดดำ, แตงกวา, มะนาว, ดอกกุยช่าย ฯลฯ ควรแช่เบกกิ้งโซดา หรือ แช่โอโซน ล้างให้สะอาด สะเด็ดให้หมาด หรือ ซับให้แห้ง แล้วค่อยเก็บใส่ถุง มัดปากหลวมๆ หรือ ปิดฝาหลวมๆ เพื่อให้ผักหายใจได้ เก็บในตู้เย็นช่องแช่ผัก จะทำให้เก็บได้นานหลายวัน ถ้าผักเปียกจะทำให้ผักเน่าเร็ว ถ้าผักมีอาการคายน้ำ ให้เปิดฝากล่อง หรือ เปิดปากถุง ให้กว้างขึ้น
- ดอกกุยช่าย ใช้ทำผัดไทย แทนใบกุยช่ายได้ ให้กลิ่นหอมเหมือนกัน
- ผักที่ ไม่ต้องล้าง ห้ามเปียก คือ กะหล่ำปลี, ผักกาดขาว ฯลฯ ให้ใส่โฟมตาข่าย ผักจะได้มีช่องอากาศให้หายใจ แล้วใส่ถุงแบบไม่ต้องมัดปาก เก็บเข้าตู้เย็น ชั้นธรรมดา ได้นาน 20 วัน ถึง 1 เดือน เวลาจะกินให้ดึงออกมา 3-4 ใบ แช่เบกกิ้งโซดา หรือ แช่โอโซน แล้ว ล้างน้ำให้สะอาด
- กะหล่ำปลี ซอยฝอยละเอียดๆ แล้วนำไปแช่น้ำใส่เบกกิ้งโซดา 20 นาที แล้วนำไปล้างน้ำเปล่าให้สะอาด จะทำให้หายเหม็นเขียว และ กรอบขึ้น ใช้กินกับ ไข่ปลาหมึก น้ำจิ้มซีฟู้ด, ไส้กรอกอีสาน, กุ้งแช่น้ำปลา, ขนมจีนน้ำยากะทิ ฯลฯ เก็บใส่กล่องปิดฝา เก็บในตู้เย็นได้นาน 5 วัน
- มะละกอ(ดิบ) ควรแช่ตู้เย็น 1 วัน ค่อยขูดเส้น นำมาปรุงส้มตำ จะทำให้เส้นกรอบอร่อยมาก หรือขูดเส้นแล้ว เก็บใส่กล่อง ปิดฝา ใส่ตู้เย็นชั้นธรรมดา เก็บได้นาน 3-4 วัน
- ผักที่แช่แข็งได้ เช่น ขิง, ข่า, ตระไคร้, ใบมะกรูด, รากผักชี, ก้านคึ่นไช่ หรือ ขึ้นฉ่าย, พริกแห้ง, พริกจินดาแดง, กระชาย, ใบเตย(หั่นชิ้น), เร่วหอม, รากบัว, กระเทียม(หัว), กระเทียม(บด) ทำเป็นก้อนใส่ถาดน้ำแข็ง ให้แข็งตัว จะหยิบใช้ง่าย ฯลฯ ให้ล้างให้สะอาด เช็ด หรือ สะเด็ดน้ำให้แห้งก่อน แล้ว ค่อยเก็บแช่แข็ง
- วัตถุดิบ ที่เก็บแช่แข็ง แล้วไม่เสียรสชาติ เช่น กุ้งแห้ง, ลูกชิ้นทิพย์(ลูกเล็ก), ลูกชิ้นเนื้อนำชัย(ลูกเล็ก), ไส้กรอกเวียนเนอร์ CP, ขนมจีบกุ้ง ยี่ห้อ 7-11, สาหร่ายห่อกุ้ง ยี่ห้อ 7-11, สันคอหมูสไลด์ชาบู ยี่ห้อ CP, สันคอหมูกระทะ ยี่ห้อ CP, ปลาแซลมอน(ห้างแม็คโคร), ปลาสลิดแดดเดียว, ปลาช่อนแดดเดียว, เนื้อปลากระพง(สด) ให้พนง.ห้างแล่เอาแต่เนื้อ, กุ้ง(สด)ตัดหัว+แกะเปลือกแล้ว ฯลฯ
- ข้าวโพด(ดิบ) ให้นำมาหั่น เอาแต่เนื้อ เก็บแช่แข็ง สามารถนำมาผสมกับแป้งหอยทอด ครัววังทิพย์ ใช้ทำข้าวโพดทอด โดย ใช้น้ำมันมะพร้าว 3 ช้อนโต๊ะ เท่านั้น จากนั้น เทใส่ในกะทะเคลือบขนาดเล็ก(กะทะทำไข่ดาว) ใช้ไฟอ่อนๆ ที่สุด ทอดทีละด้านจนสุก ทานคู่กับน้ำจิ้มไก่ แม่ประนอม
- น้ำใบเตย สีเขียว ที่ได้จากการคั้น (ใช้ใบแก่ จะหอมมาก) แล้ว ให้เทใส่ถาดน้ำแข็ง แช่แข็งเป็นก้อนๆ หยิบใช้ง่าย และ จะเก็บได้นาน ใช้หุงข้าว, ทำน้ำใบเตย, ทำขนมไทย ฯลฯ ได้
- ใบเตย หั่นชิ้น เก็บแช่แข็ง ใช้ใส่หม้อหุงข้าว หอมดี
- สับปะรด, อะโวคาโด, กล้วยหอม, สตอเบอร์รี่, มะม่วงสุก ฯลฯ หั่นเป็นชิ้น จัดเป็นชุดๆ เก็บแช่แข็ง สามารถนำมาปั่นผสมกับอะไรก็ได้ ตามแต่จินตนาการที่อยากกิน ทำเป็นเครื่องดื่มผลไม้ปั่นได้ เช่น กล้วยหอมปั่นใส่ผงโกโก้+นมสด, สับปะรดปั่นใส่ โยเกริ์ตธรรมชาติไม่พร่องมันเนย + โหระพา หรือ สะระแหน่, อะโวคาโด+กล้วย+ผงมัทฉะ ปั่นใส่นมสด/กะทิ ฯลฯ ข้อควรรู้ น้ำปั่นผลไม้ควรปั่นใส่รวมกับวัตถุดิบที่มีไขมัน เพื่อให้ร่างกายได้ใช้ในการดูดซึม สารพฤกษเคมี หรือ ไฟโตนิวเทรียนท์ ที่มีอยู่ในผัก ผลไม้
- น้ำมะพร้าว(สด), น้ำมะนาว(สด), น้ำส้มคั้น(สด), กะทิ เทใส่ถาดน้ำแข็ง แช่แข็ง จะเก็บได้นานขึ้น หยิบใช้ได้ง่าย
- ผลไม้สด กินไม่ทัน ให้หั่นชิ้น ใส่บล๊อคน้ำแข็ง เทน้ำใส่ แช่แข็ง ใช้ทำน้ำ Infused Water กินหลังอาหาร ได้ทุกวัน
- ผักในตลาด แต่ละร้าน อายุผักจะไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่าง เช่น บางร้านมะเขือเทศเน่าเร็ว บางร้านมะเขือเทศเน่าช้า ให้ฝึกสังเกตุ อยู่บ่อยๆ และจำร้านเอาไว้ ให้สังเกตกับผักทุกประเภท เมื่อไปตลาด เราก็จะรู้ว่าร้านนี้ควรซื้อผักอะไรได้บ้าง
- หอมแดง, หอมหัวใหญ่, แครอท เลือกหัวสวยๆ ห้ามมีจุดดำๆ ไม่ต้องล้าง เก็บใส่ถุงสะอาดๆ ไม่ต้องมัดปาก เก็บในตู้เย็นเข้าช่องผัก เวลาจะกินให้ใช้มีด(แห้ง,ไม่เปียก) สะอาด ตัดส่วนที่จะกินออกมา ส่วนที่เหลือ ให้เก็บใส่ถุงเหมือนเดิม เก็บในตู้เย็นเข้าช่องแช่ผัก ได้นาน 1 เดือน
- แอปเปิ้ล ไม่ต้องล้าง เก็บในตู้เย็นชั้นธรรมดา ได้นาน 7 วัน ถ้าเก็บนานกว่านี้แอปเปิ้ลจะค่อยๆ เหี่ยวแห้ง แต่ยังกินได้อยู่
- ให้ใช้เครื่องโอนโซน เปิดใส่ในตู้เย็น นาน 15 นาที เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อ ฆ่าเชื้อโรค กำจัดกลิ่นเหม็นอับ และจะทำให้เก็บผักได้นานขึ้น อาหารเน่าเสียช้าลง
- ผักชีฝรั่ง, โหระพา, กระเพรา เป็นผักที่ดำง่าย ให้ล้างน้ำเปล่าผสมเบกกิ้งโซดานิดเดียวพอ แช่แป๊ปเดียวพอ ล้างน้ำเปล่าให้สะอาด แล้วสวมถุงหูหิ้วแบบกลับหัว ครอบลงไป หลวมๆ ส่วนโคนผักให้วางใส่กาละมังเติมน้ำเปล่า ผ่าน 1 วันให้เปลี่ยนน้ำด้วย จะเก็บได้นาน 2 วัน
- ถั่วงอก ให้แช่เครื่องผลิตโอโซน 30 นาที แล้วล้างให้สะอาด ตั้งน้ำให้เดือด เทลงไปต้ม 30 วินาที ให้สุก แล้วตัก สะเด็ดน้ำให้หมาด เทใส่ชามเซรามิค รอให้หายร้อนเหลือแค่พออุ่นๆ ปิดฝา เก็บเข้าตู้เย็นได้นาน 3-4 วัน ใช้ทำก๋วยเตี๋ยว, ใส่เกาเหลา, ผัดหมี่, ผัดก๋วยเตี๋ยว, หอยทอด, ผัดไทย, ผัดเลือดหมูใส่ถั่วงอก, กระเพาะปลาผัดแห้ง, ขนมจีนน้ำยากะทิ ฯลฯ วิธีสังเกตุ หลังเก็บในตู้เย็น ถ้าถั่วงอกอวบอ้วนแสดงว่ายังดีอยู่ แต่ถ้าถั่วงอกเริ่มเส้นเล็กเหี่ยวไม่อวบน้ำแล้วแสดงว่าไม่ค่อยสวยแล้ว
- สาหร่าย วากาเมะ ควรเก็บใส่กล่องทึบแสง เพื่อไม่ให้โดนแสง เวลาใช้ แช่น้ำ ให้คลายตัว ใช้ใส่ น้ำซุป, ต้มจืด, ราดหน้า ฯลฯ
- มันฝรั่ง เลือกหัวที่ยังไม่ล้างดิน ไม่ต้องล้าง เก็บใส่ตะกร้า มีรูระบายอากาศ ใช้ผ้าคลุมหลวมๆ เพื่อให้มันฝรั่งหายใจได้ และ ห้ามโดนแสง วางในอุณหภูมิห้อง เก็บได้นาน 10-14 วัน ถ้ามันฝรั่งเนื้อนิ่มเกินไปแล้ว จะไม่อร่อย หรือ ถ้ามันฝรั่ง มีหน่อขึ้น หรือ มีจุดเขียวขึ้นแล้ว ไม่ควรกิน เพราะมีพิษ
- มันฝรั่ง หั่นชิ้น นำไปต้มกับน้ำตาล ใบเตย 30 นาที จนมันฝรั่งสุกเต็มที่แล้ว ค่อยเติม กะทิ ตรา พร้าวหอม และ เกลือ ลงไป จะได้แกงบวชมันฝรั่ง เป็นอาหารทานเล่นง่ายๆ หรือ จะทำมันฝรั่งเชื่อม แล้วราดหัวกะทิ ก็อร่อยเช่นกัน
- มันหวานญี่ปุ่น, สีเหลือง, สีม่วง ให้แช่น้ำ 2 ชั่วโมง ให้หัวมันดูดน้ำก่อน แล้วจึงอบในหม้ออบลมร้อน ความร้อน 150 องศา อบนาน 60 นาที (หัวขนาดกลาง-อ้วน) หรือ อบนาน 45 นาที สำหรับหัวขนาดเล็ก ห้ามใช้ไฟแรง
- หมูบด, เนื้อสัตว์, เนื้อรวมมิตร, เนื้อปู, หมูสไลด์, ไก่, ตับหมู, เนื้อปลากระพง, เนื้อปลาทับทิม CP ฯลฯ ให้แบ่งเป็นชุดละ 100 กรัม แล้วเก็บแช่แข็ง จะทำให้หยิบใช้สะดวก ง่าย เพียงแค่หยิบออกมาวางรอน้ำแข็งละลาย 1-2 ชั่วโมง ก็นำมาปรุงอาหารได้ทันที
- สุกี้ รวมมิตร ให้จัดเป็นชุดๆ สำหรับ 1 ชาม ก่อนเก็บแช่แข็ง ควรประกอบด้วยเนื้อสัตว์ อย่างละ 1-3 ชิ้น ต่อชุด ดังนี้ ฟองเต้าหู้(สด), เนื้อปลากระพง, กุ้ง, ไก่, สันคอหมูสไลด์ชาบู ยี่ห้อ CP (แช่แข็ง 1 กก. 220 บาท), สาหร่ายห่อกุ้ง ยี่ห้อ 7-11, ขนมจีบกุ้ง ยี่ห้อ 7-11, ปลาหมึก, ลูกชิ้นหมูทิพย์(ลูกเล็ก), ลูกชิ้นเนื้อนำชัย(ลูกเล็ก), ชิกูว่า หรือ ชิกุวะ, รากบัว ฯลฯ
- ก๋วยเตี๋ยวแห้ง, ก๋วยเตี๋ยวผัด ทรงเครื่อง ให้จัดเนื้อรวมมิตร เป็นชุดๆ เก็บแช่แข็ง ประกอบด้วย ลูกชิ้นหมูทิพย์ (ไซต์ลูกเล็ก) 3 ลูก, ลูกชิ้นปลา ตรา แต้จิ๋ว 1 ลูก, ตับหมู ตรา เบทราโกร 2-3 ชิ้น, กุ้งแกะเปลือกแล้ว 2 ตัว, ไข่แผ่น หั่นเป็นเส้นเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ, รากบัว 3-4 ชิ้น, แครอท(ถ้าชอบ), ข้าวโพดอ่อน(ถ้าชอบ), ลูกชิ้นเนื้อนำชัย ไซต์ลูกเล็ก (ถ้าชอบ)
- ปลากะพง ควรเลือกตัวที่ตาใสๆ หยิบไปให้พนักงานห้างแม็คโคร, บิ๊กซี, โลตัส แล้วบอกเขาว่า แล่..เอาแต่เนื้อ กลับบ้านมาให้นำมาล้างอีกรอบ ขูดเกร็ดให้เกลี้ยงๆ อีกรอบ แล้วหั่นชิ้น จัดชุด สุกี้รวมมิตร หรือ จัดชุดสำหรับทำกับข้าว 1 จาน แล้วเก็บแช่แข็งได้เลย เพียงแค่หยิบออกมาวางรอน้ำแข็งละลาย 1-2 ชั่วโมง ก็นำมาปรุงอาหารได้ทันที
- กุ้ง ต้องตัดหัว ปลอกเปลือก ออกก่อน ล้างน้ำสะเด็ดน้ำให้หมาดๆ จัดแบ่งเป็นชุดๆ แล้วค่อยเก็บแช่แข็ง จะเก็บได้นาน ไม่ควรเก็บกุ้งทั้งเปลือก เมื่อแช่แข็งไปนานๆ เพราะ จะทำให้เกิดจุดขาวบริเวณเปลือกกุ้ง ดูไม่น่าทาน.. ส่วนกุ้งที่แช่แข็งทั้งเปลือกควรกินให้หมดภายใน 5 วัน ห้ามเก็บนานเกินกว่านี้ เพราะ จะทำให้เกิดจุดขาวที่เปลือก
- กุ้งแม่น้ำ ใช้กรรไกร ตัดหนวด เหงี่ยง ขา ออกให้หมด ล้างน้ำสะอาด แล้วจัดเป็นชุดๆ เก็บแช่แข็ง ควรนำมาปรุงอาหารกินภายใน 5-7 วัน ถ้าเก็บนานเกินไปจะทำให้เกิดจุดขาวที่เปลือกกุ้ง ดูไม่น่ากิน
- กุ้งอบวุ้นเส้น ต้องใส่ ผักชี และ คึ่นไช่ หรือ ขึ้นฉ่าย จึงจะหอมล้ำลึก มีเสน่ห์
- ตีนไก่ ให้คลุกเกลือ ล้างคาว 2 รอบ แล้วนำใส่หม้ออัดแรงดัน OTTO นาน 30 นาที ก่อน จะทำให้เนื้อร่อน ละลายในปาก ให้ตักเฉพาะเนื้อขาไก่ นำมาปรุงรส ทำอาหาร เช่น เมนู ต้มซุปเปอร์, ต้มยำ, ยำ, แกงกะทิใส่ในขนมจีน ฯลฯ ส่วนน้ำต้มไก่ ให้เททิ้งไป
ตีนไก่ จัดเป็นโปรตีนกลุ่มคอลลาเจน ที่มีอยู่จำนวนมากในร่างกายของเรา
- คอเป็ด พะโล้ คอละ 20 บาท 4 คอ ให้ร้านสับเป็นชิ้นๆ นำมาต้มกับน้ำพะโล้ที่ร้านให้มา + น้ำเปล่าเพิ่ม เทจนท่วม แล้วต้มไฟกลาง ๆ จนน้ำง่วน ประมาณ 20-30 นาที สามารถทานกับข้าวสวยร้อนๆได้ 3 คน จัดเป็นเมนูประหยัดที่รสชาติอร่อย นุ่มละลายในปาก
- หอยแมลงภู่ นึ่งให้สุกแล้ว แกะออกจากเปลือก ดึงขนออก แล้วจัดเป็นชุด เก็บแช่แข็ง ใช้ทำ ผัดกระเพรา, ผัดฉ่า, จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด ฯลฯ
- หอยแมลงภู่ และ เนื้อปู แช่แข็ง 1 ชุด ให้เข้าไมโครเวฟ ไฟอ่อนที่สุด นาน 2 นาที เพื่อละลายน้ำแข็ง แล้วนำมาปรุงอาหารได้เลยทันที อย่าวางทิ้งไว้เพื่อละลายน้ำแข็ง ถ้าวางทิ้งนานเกินไป อาจะให้มีกลิ่นคาว และ ของไม่สดได้
- วัตถุดิบซอสที่ต้องเก็บในตู้เย็นเสมอ เพื่อป้องกันซอสบูด-เสีย-เน่า ได้แก่ ซอสปรุงรสฝาเขียว ตราภูเขาทอง, ซีอิ้วขาว ตราเด็กสมบูรณ์, ซอสแม็กกี้, ซอสมะเขือเทศ, ซอสเย็นตาโฟ ตราม้าบิน, น้ำมะขามเปียก ตราแชมป์, น้ำจิ้มข้าวมันไก่ ตรา Lobo, น้ำจิ้มไก่ แม่ประนอม, น้ำจิ้มสุกี้ MK, น้ำจิ้มหมูกะทะ เอกกฤต, น้ำจิ้มหม่าล่า คนยองสิบสองปันนา, ซอสพริก แม่ง้อ ซอสหอยทอด จ.นครปฐม ฯลฯ
- ขวดน้ำมันมะพร้าว ให้ซื้อหัวปั้มมาใส่ 15 บาท จะกดใช้ได้ง่าย ไม่เลอะมือ ควรใช้ น้ำมันมะพร้าว หรือ น้ำมันหมู หรือ ไขมันสัตว์ ในการปรุงอาหารผ่านความร้อน เพราะ น้ำมันกลุ่มนี้ไม่ก่อให้เกิดไขมันทรานซ์ (Trans fat)
- ช้อนกินข้าว ควรใช้ช้อนไซต์เดียวกันหมด ยี่ห้อเดียวกัน เหมือนกันหมด เวลาเอาช้อนมาตวงซอส เครื่องปรุง ทำอาหาร จะได้แม่น
- เต้าหู้ขาว(แข็ง) หั่นเต๋าชิ้นเล็ก คลุกน้ำมันมะพร้าว แล้วอบในหม้ออบลมร้อน หรือ หม้อทอดไร้น้ำมัน ไฟ 180 องศา อบ 10 นาที รอพักจนเย็น แล้วเก็บแช่แข็ง ใช้สำหรับทำ ผัดไทย, ผัดหมี่สีชมพู, ผัดถั่วงอก, ผัดก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ได้
- ไข่ ควรนับจากวันผลิต ไม่เกิน 4 วัน ถือว่ายังสดอยู่ ให้เก็บในชั้นธรรมดาของตู้เย็น ดันให้ชิดด้านในสุด จะเก็บไข่ได้นาน 1 เดือน ห้ามเก็บไข่ที่ประตูตู้เย็น เพราะการสั่นสะเทือนและอุณหภูมิที่ไม่เสถียร จะทำให้ไข่เน่า-เสียได้ง่าย
- ไข่ต้มยางมะตูม ใส่ไข่ลงในหม้อ ต้มไฟกลางๆ ให้น้ำเริ่มเดือด แล้ว ดับเตาไฟ ปิดฝาหม้อ จับเวลา 15 นาที แล้วน๊อคน้ำเย็น
- ไข่ต้ม 7 นาที แล้วน๊อคน้ำเย็น เก็บในตู้เย็นได้นาน 1 อาทิตย์ เวลาหิว หยิบมาปอกเปลือกกินได้ตลอดเวลา ไม่ต้องอุ่น แค่โรยพริกไทย ซอสปรุงรสฝาเขียว ภูเขาทอง หรือ ซอสแม็กกี้ ก็อร่อยได้ทันที
- กระเพาะปลา นำมาต้มใส่ต้นหอม เหล้าจีน ให้เดือด ล้างน้ำเปล่า บีบๆ ทำสัก 3-4 รอบ เอากลิ่นและน้ำมันออก บีบน้ำออกให้หมด จัดเป็นชุดๆ สำหรับ 1 ชาม เก็บแช่แข็ง เก็บได้นาน เวลาจะกิน ให้ปรุงน้ำแดง แล้วใส่กระเพาะปลาได้เลย
- น้ำราดหน้า หรือ น้ำกระเพาะปลา ให้ใช้แป้งมันฝรั่ง จะทำให้น้ำซุปนุ่มนวล กว่าใช้แป้งมันสำปะหลัง
- เกาเหลาเนื้อตุ๋น ซื้อแบบ ไม่ใส่ผัก เก็บในตู้เย็น ได้นาน 3-5 วัน เวลาจะกิน ให้นำมา ต้มใส่ สาหร่าายวากาเมะ และ คึ่นไช่ กินกับ ข้าวสวยร้อนๆ จะได้สารอาหารที่ดีเยี่ยม
- กิมจิ ควรเก็บในชั้นธรรมดา(ด้านในสุด) ของตู้เย็น จะทำช่วยยืดอายุกิมจิได้นานขึ้น ก่อนกินควรเช็คดูว่ากิมจิ มีขึ้นรา หรือ ไม่ ?
- ลูกชิดอบแห้ง, ลูกพรุนแห้ง, เนื้อลูกสำรอง แบบผ่านการต้มฆ่าเชื้อมาแล้ว, เฉาก๊วยดอนเมืองแบบก้อนสี่เหลี่ยม 1 กิโลกรัม เก็บในตู้เย็นได้นาน 1 เดือน ส่วน ลูกชิด, ลูกพรุน, ลูกสำรอง เก็บได้นาน 2 เดือน วิธีตรวจเช็ค ให้หยิบใส่ปากเล็กน้อย ถ้าไม่มีรสเปรี้ยวแปร่งๆ รสประหลาดๆ กลิ่นแปลกๆ ถือว่ายังกินได้
- กะปิ นาทับ จ.สงขลา 500 กรัม ตักแบ่งใส่ถุง 3 ถุง มัดปากถุงทั้ง 3 ถุง เก็บใส่กล่อง ปิดฝากล่องให้สนิท เพื่อป้องกันกลิ่นออกมา เก็บในตู้เย็นเสมอ ใช้ทำ ข้าวคลุกกะปิ, แกงส้ม, ขนมจีนน้ำยา, ผัดสตอ ฯลฯ
- ข้าวคลุกกะปิ ให้ทำซอสกะปิก่อน แล้วค่อยผัดใส่ข้าว วิธีทำ ให้ใส่น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ ผัดกับกะปิ 2 ช้อนโต๊ะ ให้หอมๆ ก่อน แล้ว ดับไฟ แล้วใส่น้ำเปล่าลงไป 70 ml. หรือ 9 ช้อนโต๊ะ คนๆ ละลายกะปิให้เนียนๆ เป็นน้ำซอสก่อน อย่าให้...กะปิเป็นก้อน แล้วจึงเทข้าวลงไปผัด
- กุนเชียง ให้หั่นชิ้น แล้วผัดใส่น้ำ จนสุกเงาสวย ก็กินได้เลย ไม่ต้องทอด
- เครื่องแกง, พริกแกง เช่น พริกแกงเผ็ด, พริกแกงพะแนง, พริกแกงเขียวหวาน, เครื่องแกงขนมจีนน้ำยากะทิ, แกงป่า, แกงส้ม, แกงเหลือง ฯลฯ ให้เลือกยี่ห้อ ที่ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ใช้เสร็จแล้ว ส่วนที่เหลือ ให้เก็บแช่แข็ง จะได้เก็บได้นาน
- เครื่องต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ที่รสชาติดี ได้แก่ เครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ตรา พานทอง 10 บาท, เครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวเรียงเมืองจันทร์แท้ 263 ตรา ช (ซองสีแดง)
- กล้วยบวชชี วิธีป้องกันกล้วยดำ ให้ตัดกล้วยแยกเป็นลูกๆ ไม่ต้องปอกเปลือก นำไปต้ม 30 นาที จนกล้วยสุก ตอนต้มกล้วยให้บีบน้ำมะนาวใส่ลงไปด้วย จะทำให้ยางกล้วยไม่ย้อนมาติดลูกกล้วย แล้วค่อยปอกเปลือกหั่นผ่ากลางชิ้น ให้สังเกตุ ไส้กล้วยจะมีสีเหลืองสวย ถือว่าสมบูรณ์ จากนั้นค่อยนำไปปรุงกล้วยบวชชีได้ เคล็ดลับนี้ จะทำให้กล้วยขาว เนื้อหนึบหนับ ไม่เละ ไม่ดำ น่ากิน ถ้าไม่มีมะนาวก็ไม่เป็นไร ต้มกล้วยทั้งลูกอย่างเดียวเลยก็ได้
และ ให้ใส่เกลือเฉพาะตอนปิดไฟแล้ว เพราะหากใส่ตอนระหว่างทำ จะทำให้น้ำกะทิเปลี่ยนสีได้
- วิธีล้างยางกล้วย ให้ใช้สบู่ ตรานกแก้ว ล้างมือ ถูสบู่ที่หม้อสแตนเลส แล้วใช้ฝอยขัดหม้อถู ไม่นานก็ออก
- กะทิ ที่รสชาติดี ได้แก่ ยี่ห้อ พร้าวหอม , ยี่ห้อ อัมพวา
- เส้นขนมจีน อบแห้ง ข้อดี คือ ไม่มีสารกันบูด ขนาด 100 กรัม ต้มแล้ว จะกินได้ 2 คน
- เส้นบะหมี่(อบแห้ง) ตรา โชกุน ทำจากแป้งสาลี 100% เส้นบะหมี่-ก๋วยเตี๋ยว ควรเลือกแบบอบแห้ง ไม่ทอด ไม่ใส่สารกันบูด-วัตถุกันเสีย
- ผงพะโล้ ตรา Lobo เป็นผงเครื่องเทศ 100% ไม่ใส่น้ำตาล สามารถนำไปทำ ไข่พะโล้ , หมักหมูแดง, ผัดหมูหวาน-เค็ม ฯลฯ
- ฟักเขียว 1 ลูก 15 บาท ห้างแม็คโคร สามารถนำมาใช้ทำได้ 2 เมนู ได้แก่ ต้มจืดฟักเขียว, ขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ใส่ฟักเขียว ฯลฯ หั่นเป็นชิ้นๆ ใส่กล่องปิดฝา เก็บในตู้เย็นได้ 3-5 วัน
- น้ำมะพร้าว ที่ไม่ใส่น้ำตาล มีรสชาติแบบธรรมชาติ ไม่แต่งกลิ่น เช่น ยี่ห้อ King Island , ยี่ห้อ Cocomax , ส่วน ยี่ห้อ Coco Buri เป็นมะพร้าวน้ำหอม จะหอมกว่ายี่ห้ออื่นๆ ทั่วไป ก่อนกิน ควรแช่เย็น.. ก่อนดื่ม จึงจะรสชาติดี น้ำมะพร้าว มีฤทธิ์เย็น ช่วยคลายร้อน ลดตะคริว เส้นตึง ลดบวมน้ำ เหมาะสำหรับคนขี้ร้อน...อย่างมาก ควรมีติดบ้านไว้
- น้ำลูกเดือย ไม่ใส่น้ำตาล ยี่ห้อ Pro-fit มีฤทธิ์เย็น ช่วยคลายร้อน มีใยอาหาร ต้านมะเร็ง ควรแช่เย็น.. ก่อนดื่ม จึงจะรสชาติดี สามารถนำมาสร้างสรรค์ เป็นเมนูเพื่อสุขภาพใหม่ได้ เช่น นมลูกเดือย ผสม นมถั่วเหลือง ปั่นใส่ผงโกโก้, ผงมัทฉะ, ผงใบอ่อนข้าวบาร์เลย์ + น้ำตาลมะพร้าว + กะทิ 1 ก้อนแช่แข็ง(ถ้ามี) เมื่อปั่นเข้ากันดีแล้ว ให้ใส่น้ำแข็ง 5 ก้อน คนให้เย็นๆ แล้วดื่มทันที
- เนื้อลูกสำรอง 800 กรัม 100 บาท ต้มสุกแล้ว เก็บในตู้เย็นได้ 1-2 เดือน ตักใส่แก้ว เติมน้ำเปล่าแช่เย็นๆ ก็ทานได้เลย มีเส้นใยอาหารสูง มีฤทธิ์เย็น ช่วยคลายร้อน หรือ เรียกอีกชื่อว่า พุงทลาย ช่วยคุมหิวได้
- ชีส ควรเลือกรุ่นที่ผลิตจากนม 100% ไม่ควรกินชีสแปรรูป เพราะเป็นไขมันทรานซ์ (Trans fat) ให้อ่านส่วนผสมก่อนซื้อทุกครั้ง วิธีเก็บ ให้นำมาหั่นชิ้น จัดเป็นชุดๆ เก็บแช่แข็งได้นาน ไม่ควรเก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา เพราะ...อาจจะทำให้ขึ้นราได้
- ชีส..สด ให้นำนมสดมาต้มใส่เกลือทะเลจนร้อน แล้วบีบมะนาว หรือ เติมน้ำส้มสายชู ลงไป คนเล็กน้อย รอ 5 นาที โปรตีนจะแยกตัวออกจากน้ำ นำไปกรอง ก็จะได้ชีสสด
ถ้าต้องการให้เป็นครีมชีส ให้เติมวิปปิ้งครีม ที่ทำจากครีมนม 100% ให้ใส่ตอนต้มนม แล้วเติมกรดลงไป เพื่อแยกโปรตีนออกมา แล้วให้นำที่ปั่นอาหารมือถือมาปั่น หรือ นำไปใส่โถปั่น(แถ้ว) ให้ละเอียดในตอนที่ยังร้อนๆ อยู่ ก็จะได้ครีมชีสที่เนื้อเนียน ให้เก็บแช่ตู้เย็น หรือ สามารถนำไปปรุงอาหารได้ทันที
- วิปปิ้งครีม ควรเลือกยี่ห้อที่ทำจากนม 100% ไม่ควรกินวิปปิ้งครีมแปรรูป เพราะเป็นไขมันทรานซ์ (Trans fat) ให้อ่านส่วนผสมก่อนซื้อทุกครั้ง 1 ลิตร สามารถเทแบ่งเป็นชุดละ 100 กรัม แล้วเก็บแช่แข็ง ได้นาน ใช้สำหรับทำพาสต้า, สปาเกตตี้ ได้
หรือ นำวิปปิ้งครีม มาตีให้ขึ้นฟู แล้วใส่ผงโกโก้ หรือ ผงกาแฟ หรือ ผงมัทฉะ ใส่น้ำตาลมะพร้าว เพื่อให้ความหวาน ตีให้ขึ้นฟู แล้วนำไปแช่แข็ง ก็จะกลายเป็นไอศกรีม
- เนย ควรเลือกยี่ห้อที่ทำจากนม 100% ไม่ควรกินเนยผสมน้ำมัน หรือ มาการีน(เนยเทียม) เพราะเป็นไขมันทรานซ์ (Trans fat) ให้อ่านส่วนผสมก่อนซื้อทุกครั้ง