เข้าชม :
134495
|
|
วิธีเปิดพอร์ตหุ้น กับ บลจ.บัวหลวง
 1. เข้าลิงค์ https://itrading.bualuang.co.th/th/dashboard.php 2. กรอกข้อมูล (ตามในรูป) กรอกเสร็จแล้วกดปุ่ม ตกลง |
|
[ ความเห็นที่ 1]
RE : วิธีเปิดพอร์ตหุ้น กับ บลจ.บัวหลวง โพสต์เมื่อ: วันเสาร์ 5 กรกฎาคม 2557 15:14 น.  3. เมื่อกดปุ่มตกลง แล้ว หน้าจอจะมีช่องสำหรับให้กรอกข้อมูลส่วนตัว-ให้กรอกทุกหน้า ระหว่างที่กรอกข้อมูล ให้เลือกเปิดบัญชีแบบ Cash Balance แคลชบาลานซ์ เป็นบัญชีที่ใช้เงินสดของตัวเองเทรดทางอินเตอร์เนต (ไม่เลือกเปิดบัญชีแบบซื้อขายผ่านจนท.มาร์เกตติ้งนะค่ะ ค่าเทรดเวลาซื้อ-ขายจะแพงกว่า Cash Balance ค่ะ) 4. เมื่อกรอกแล้ว ให้พิมพ์เอกสารออกมา จะมีทั้งหมดประมาณ 20 หน้า 5. เซ็นต์ชื่อ-นามสกุล ลายมือตัวเอง ลงในหน้าเอกสารหน้า 9 หน้า 19 และ หน้า 20 6. เตรียมเอกสารส่วนตัว + เงิน 30 บาท สำหรับเอกสารที่เตรียม ให้เซ็นต์ ชื่อ-นามสกุล และเซ็นต์รับรอง "สำเนาถูกต้อง" + เซนต์ทับหน้า ว่า " ใช้เปิดบัญชีกับบลจ.บัวหลวง " เพื่อกันเอสารหายด้วยนะค่ะ เอกสารส่วนตัวที่ต้องเตรียม มีดังนี้ 6.1 สำเนาบัตรประชาชน 6.2 สำเนาทะเบียนบ้าน 6.3 สำเนาหน้าบัญชี Book Bank ของธนาคารใดก็ได้ 1 บัญชี เพื่อใช้สำหรับรับเงินปันผล 6.4 เงิน 30 บาท (นำใส่ถุง ส่งแนบไปพร้อมเอกสารทางจม.ได้เลย) 6.5 ในกรณีที่เคยมีการเปลี่ยนชื่อ หรือ นามสกุล ให้ ถ่ายสำเนาใบเปลี่ยนชื่อลงลายมือเซ็นต์ แนบไปด้วยนะค่ะ 6.6 ในกรณีที่แต่งงานแล้ว ให้ถ่ายสำเนาใบทะเบียนสมรสแล้วเซนต์รับรองสำเนา แล้วแนบไปด้วยนะค่ะ 7. เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว นำเอกสารส่งจม.ไปที่ ฝ่ายบัวหลวงอินเวสเมนท์สเตชั่น Bualuang Investment Station (เปิดบัญชี) บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) 1-7 อาคารซิลลิคเฮ้าส์ Unit 1A ชั้น 4 ถนนสีลม แขวงสีลม แขวงบางรัก กทม. 10500 8. เมื่อบลจ.บัวหลวงอนุมัติแล้ว ท่านจะได้รับอีเมล์ Welcome to Bualuang iTrading แจ้ง user และ password ( รอไม่เกิน 14-28 วัน) 9. นำ user และ password ไป login เพื่อสร้างรหัส PIN (6 ตัว) ของท่านเอง ที่ลิงค์นี้ http://www.bualuang.co.th/th/sb_apply_i_trading_2.php# ปล.แนะนำ ให้เปลี่ยน password เพื่อความปลอดภัยของท่านด้วย 10. โอนเงินเข้าพอร์ตหุ้น ทาง ATM (ตามรูปด้านบน) ถ้าใครใช้ internet banking ก็สามารถโอนได้นะค่ะ ไปที่โหมดชำระเงิน ได้เลยค่ะ 12. รอยอดเงินเข้าพอร์ตหุ้น ช่วงที่ตลาด set เปิดเทรด เงินจะเข้าพอร์ตภายใน 5 นาที ถ้าตลาด set ไม่เปิด รอหลังวันหยุด.. 13. เทรดได้เลย |
|
[ ความเห็นที่ 2]
RE : วิธีเปิดพอร์ตหุ้น กับ บลจ.บัวหลวง โพสต์เมื่อ: วันเสาร์ 5 กรกฎาคม 2557 15:34 น.
แนะนำหนังสือหุ้น ดี ๆ ค่ะ เสียเงินไม่กี่บาทแต่ได้ความรู้มากมายค่ะ
คุ้มมาก ๆ รายได้ที่มาจากขายหนังสือเล่มคุณกวี บอกว่าจะนำเงินไปทำบุญนะค่ะ เคยฟังในรายการทีวีค่ะ  ก่อนการลงทุนในหุ้น อันดับแรกที่นักลงทุนมือใหม่ ต้องทำความเข้าใจ ก่อนว่า… ธรรมชาติของราคาหุ้นนั้น มีขึ้น มีลงอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของตลาด ดีมานส์ และซัพพลาย ถ้าคนส่วนใหญ่ในตลาดมีอารมณ์อยากขายหุ้นจำนวนมาก ๆ ราคาหุ้นก็จะถูกแย่งขายทุกราคา ทำให้หุ้นลง ถ้าคนส่วนใหญ่ในตลาดมีอารมณ์อยากซื้อหุ้นจำนวนมาก ๆ ราคาหุ้นก็จะถูกแย่งซื้อทุกราคา ทำให้หุ้นขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นเป็นการซื้อขายแบบจับคู่ หรือ ที่เรียกว่า ตลาด matching ถ้าเราขายหุ้นได้ ก็แสดงว่ามีคนมารับซื้อหุ้นต่อจากเราในราคาที่เราขาย และถ้าซื้อหุ้นได้ ก็แสดงว่ามีคนมาขายหุ้นให้เราในราคาที่เขาอยากจะขาย โดยทั่วไปแล้ว มักไม่มีหุ้นตัวไหนที่ราคานิ่งอยู่ตลอดเวลา ราคาของหุ้น มักจะเหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงเสมอ อยู่ที่ว่าเราเข้าซื้อในจังหวะไหน ถ้าเราเข้าในจังหวะราคาหุ้นที่สูงเกินไป พอซื้อแล้วราคาไหลลงต่อ เค้าเรียกว่า ติดดอย ส่วนราคาหุ้นที่ลงมา แล้วเราคิดว่าจะเก็บแต่ยังไม่เก็บ หวังว่ามันจะลงมาอีกหน่อย แล้วค่อยเก็บ แต่พอไม่เก็บ แล้วหลังจากนั้นราคามันก็วิ่งขึ้นไป เขาเรียกว่า ตกรถ คนที่อยู่ในตลาดส่วนใหญ่มักจะเจอกับสภาวะแบบนี้อยู่เสมอ ก็คือ ติดดอย และ ตกรถ ทีนี้เราจะทำยังไงดีหล่ะ เพื่อไม่ให้ ติดดอย และ ตกรถ... คำตอบ คือ เราจะต้องประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของหุ้นตัวนั้น ๆ ให้ออกค่ะ แล้วเราจะรู้ว่าจังหวะที่เราจะซื้อตอนนี้ เป็น หุ้นราคาที่ถูกหรือแพงค่ะ อีกสักพัก จะรวบรวมข้อมูลให้มากกว่านี้แล้วเอาไปพูดในวีดีโอ youtube ในชื่อ pui nasii นะค่ะ  ตลาดหลักทรัพย์มีคนหลายกลุ่ม ประกอบไปด้วย  สถาบันในประเทศ ได้แก่ กองทุนรวมต่าง ๆ ในประเทศ เช่น LTF RMF trigger fund ฯลฯ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หรือ ป๊อปเทรด เป็นมือเทรด หรือ เทรดเดอร์ของแต่ละโบรกเกอร์ พวกนี้เป็นมืออาชีพ จะเก่งกราฟเทคนิคค่ะ นักลงทุนต่างประเทศ จะประกอบด้วยนักลงทุนรายย่อย และ กองทุนต่างประเทศค่ะ นักลงทุนรายย่อยต่างประเทศไม่ใช่ว่าจะเป็นเก่งเทพทุกรายนะค่ะ ฝรั่งเม่าก็มีนะค่ะ นักลงทุนในประเทศ ก็คือนักลงทุนบุคคลธรรมดา มีทั้งรายใหญ่ และ รายย่อยแบบพวกเราค่ะ เมื่อเราดูและทราบว่าเราอยู่ในกลุ่มไหนแล้ว เราก็จะรู้ได้ว่า คู่ต่อสู้ของเราเขามีทั้งกำลังเงินและความรู้มาก.. ดังนั้นถ้าเราอยากจะอยู่รอดในตลาดได้ เราต้องหาความรู้เยอะ ๆ ค่ะ ลำดับต่อไป ทำความเข้าใจภาพใหญ่กับวงจรธุรกิจ (ดูรูปภาพประกอบด้านล่าง) อันนี้ขอเล่าจากประสบการณ์ความเข้าใจส่วนตัวนะค่ะ  คำอธิบายจากภาพด้านบนค่ะ... เมื่อธุรกิจเริ่มขึ้นแล้ว หลังจากนั้น จะเป็นช่วงที่กิจการเติบโต ยอดขายจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกไตรมาส ทุกปี เค้าเรียกว่าธุรกิจมี GROWTH เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่ง ธุรกิจเริ่มอิ่มตัว เมื่อธุรกิจอิ่มตัว ยอดขายก็จะทรง ๆ หรือ เท่าเดิม ช่วงนี้นี่แหละ จะบ่งบอกถึงความสามารถและวิสัยทัศน์ของผู้บริหารว่า ok มั้ย ถ้าจะฝากเงินเก็บสักก้อนที่มีค่าของเราไว้กับหุ้นตัวหนึ่ง สิ่งที่สำคัญมากๆ ที่ต้องพิจาราณา ก็คือผู้บริหาร ธุรกิจไหน มีการขยาย พัฒนาสินค้า แตกไลน์ ต่อยอด ธุรกิจนั้นก็จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ถ้าธุรกิจไหนไม่ขยาย พัฒนาสินค้า หรือต่อยอดสินค้า ถ้าเป็นธุรกิจที่ยังเป็นเบอร์ 1 อยู่ ยอดขายก็จะทรง ๆ ไปเรื่อย ๆ แต่ถ้าธุรกิจไหนที่ถูกแย่งชิงความเป็นเบอร์ 1 ไปแล้ว ก็อาจจะถึงขั้นยอดขายลดลง และกลายเป็นธุรกิจขาลงไปในที่สุด ยกตัวอย่างเช่น โทรศัพท์ โนเกีย ซัมซุง และ Apple ในสมัยก่อน โนเกีย ถือเป็นธุรกิจอันดับ 1 ในวงการโทรศัพท์ แต่ด้วยความมั่นใจในแบรนด์ของตนมากจนเกินไป และ ไม่ยอมเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ที่ว่า โทรศัพท์สมัยใหม่จะต้องใช้นิ้วจิ้ม และมีจอใหญ่ ๆ จึงทำให้โนเกียไม่พัฒนาสินค้า ทำให้พ่ายแพ้ต่อ ซัมซุง และ Apple ไปในที่สุด กลายเป็นธุรกิจขาลง จนถึงขั้นต้องปิดโรงงาน แต่ในทางกลับกันทางฝั่งของ ซัมซุง และ Apple ที่มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้นจนกลายเป็นสินค้าแบรนด์ทีนิยมอันดับต้น ๆ ของโลก ถือเป็นธุรกิจที่มี GROWTH ดังนั้นถ้าเราจะลงทุน เราก็ขอแนะนำให้เลือกธุรกิจที่มีการเติบโต หรือ มี Growth ก็จะดีกว่าธุรกิจไม่เติบโต ส่วนธุรกิจที่ไม่มีการเติบโต ธุรกิจที่เป็นขาลงไปแล้ว แต่ถ้าวันหนึ่งผู้บริหารมีการเปลี่ยนความคิดและอยากพัฒนาธุรกิจขึ้นมา หุ้นนั้นก็สามารถฟื้นคืนชีพได้ หรือที่เราเรียกกันว่า หุ้น Turnaround หุ้น Turnaround นั้น ถ้าฟื้นขึ้นมาได้จริง ๆ ราคาจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรง เช่นหุ้น IFEC จากเมื่อก่อนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับให้เช่าอุปกรณ์สำนักงานเครื่องถ่ายเอกสาร เมื่อธุรกิจถึงจุดอิ่มตัว ยอดขายก็ทรง ๆ ไม่มีการเติบโต แต่เนื่องด้วยวิสัยทัศน์ที่ดีของผู้บริหาร จึงเปลี่ยนธุรกิจจากอุปกรณ์สำนักงานเครื่องถ่ายเอกสารมาเป็นพลังงานทดแทนแสงอาทิตย์ และทำให้ราคาหุ้นมีการดีดตัวอย่างรุนแรง จาก 4.26 บาท ไปที่ 16.00 บาท ในเวลา 1 ปี เพราะถือเป็นหุ้นที่มีอนาคต และคาดว่าจะมี Growth เติบโตอย่างต่อเนื่อง หุ้นประเภทนี้แนะนำให้ถือยาว ๆ จะได้ให้ผลตอบแทนส่วนต่างราคาได้ดีมากค่ะ แต่เราต้องบอกก่อนว่า หุ้น Turnaround นั้นมีน้อยตัวมาก ๆ ที่ธุรกิจจะ Turnaround จริง ๆ เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างเสี่ยงมาก ใช้การคาดหวังอนาคตอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้ สำหรับใครที่ไม่ชอบความเสี่ยงมาก ภาวะจิตใจไม่แข็งแรง ก็แนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงหุ้นประเภทนี้นะค่ะ -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
--------------------------------------------------------------------------- ความรู้เกี่ยวกับเรื่องฤกษ์ 1. ผู้เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันศุกร์และวันอังคาร 2. ผู้เกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันอาทิตย์และวันพฤหัสบดี 3. ผู้เกิดวันอังคาร ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันจันทร์และวันอาทิตย์ 4. ผู้เกิดวันพุธ (กลางวัน) ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันอังคารและพุธ (กลางคืน) 5. ผู้เกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันเสาร์ 6. ผู้เกิดวันศุกร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพุธ (กลางคืน) และวันเสาร์ 7. ผู้เกิดวันเสาร์ ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพุธ (กลางวัน) และวันศุกร์ 8. ผู้เกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามใช้ฤกษ์ที่เป็นวันพฤหัสบดีและวันพุธกลางวัน ฤกษ์ดี เดือนกรกฎาคม 2557 ขึ้นเดือนใหม่ เดือนกรกฎาคมแล้ว วันนี้เรามี ฤกษ์ดี ยามดี สำหรับประการมงคลต่าง ๆ ในเดือนมิถุนายน 2557 ฤกษ์ ดี กรกฎาคม 2557 มีอะไรบ้างมาดูกัน ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 06.00-06.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีเมถุน ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 07.00-07.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.45-10.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.00-13.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 14.30-15.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 17.00-17.45 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพิจิก ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2557 เวลา 20.00-20.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีธนู ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 7 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 06.34-07.17 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.34-10.17 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 11.51-12.34 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.51-14.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์ ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 14.17-15.17 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2557 เวลา 16.34-17.34 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพิจิก ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 เวลา 06.30-07.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.15-10.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 เวลา 11.30-12.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.45-13.45 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์ ตรงกับแรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2557 เวลา 14.00-14.45 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับแรม 3 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 06.17-07.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.17-10.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 11.34-12.17 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.34-13.34 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 13.51-15.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 16.17-17.17 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพิจิก ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม 2557 เวลา 19.17-19.51 น. ลัคนาสถิตย์ราศีธนู ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 6 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 06.00-06.48 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 09.00-09.48 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 11.16-12.16 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.32-13.32 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์ ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2557 เวลา 13.48-14.32 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับแรม 10 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 06.00-06.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกรกฎ ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 08.45-09.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีสิงห์ ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 11.00-12.00 น. ลัคนาสถิตย์ราศีกันย์ ประกอบด้วยภูมิปาโลฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 12.15-13.15 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทศาตรีฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 13.30-14.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีตุลย์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 16.00-16.45 น. ลัคนาสถิตย์ราศีพิจิก ประกอบด้วยราชาฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ฤกษ์ วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 เวลา 19.00-19.30 น. ลัคนาสถิตย์ราศีธนู ประกอบด้วยมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับแรม 13 ค่ำ เดือน 8 ปี มะเมีย ดูฤกษ์อื่น ๆ ได้ที่ลิงค์นี้ http://www.mahamodo.com/tamnai/good_time.aspx ความหมายและการนำฤกษ์ทั้ง 9 ไปใช้ 1. ทลิทโทฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 1 , 10 และ 19 เรียกว่า ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้มักน้อย ผู้เข็ญใจ ผู้ขอ ผู้ต้องเหน็ดเหนื่อย ผู้อดทน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูง ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ของ "ชูชก" มีพระอาทิตย์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" คือฤกษ์ที่เต็มโดยสมบูรณ์ คือฤกษ์ที่ไม่ขาดแยกแตกบาทฤกษ์ไปอยู่คนละราศี และเรียกว่า จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การขอสิ่งต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นฤกษ์ของชูชก จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใดๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา เปิดร้านขายของชำ ของเก่าชำรุด สมัครงาน ทำการใด ๆ ที่ริเริ่มใหม่ สรุปการใช้ฤกษ์นี้ ฤกษ์นี้ใช้สำหรับ ขอผัดผ่อนหนี้ ขอหมั้น ขอแต่งงาน ขอทำงาน ขอสมัครงาน ขอร้อง สู่ขอ ขอคืนดี ขอรี่ไร ขอส่วนแบ่ง ขอกู้เงิน ยืมเงิน ขอผ่อนผัน ขอให้อุปการะ ขอให้ค้ำประกัน ขอซ่อม ขอร้อง ร้องขอ ขอความเป็นธรรม ขอร้องทุกข์ ขอความช่วยเหลือ สรุปคือบรรดาการขอ (ขอร้อง) ทุกอย่างให้ใช้ฤกษ์นี้ 2. มหัทธโนฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 2 , 11 และ 20 เรียกว่า มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น "บูรณะฤกษ์" เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่าง ๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคล สรุปการใช้ฤกษ์นี้ เป็นการกระทำมั่นคงถาวร เช่น สร้างบ้านให้อยู่นาน ๆ เปิดร้าน เปิดบริษัท เอารถออกจากอู่ ถอยรถใหม่ เปลี่ยนชื่อ อุปสมบท ลาสิกขา และงานมงคลทั้งปวง 3. โจโรฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 3 , 12 และ 21 เรียกว่า โจโรฤกษ์ แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย นักเลง ผู้ใช้กำลัง ผู้ทำลายล้าง ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีพระอังคารเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น "ฉินทฤกษ์" คือ ฤกษ์ขาดแตก โดยเฉพาะบาทแรกของต้นราศีนั้น เป็นฤกษ์บาทที่ร้ายแรงมากกว่าบาทอื่น เป็นนวางค์ที่ร้ายแรงมาก ไม่ควรให้ฤกษ์มงคล เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจและผลประโยชน์ งานเสี่ยง ๆ ในระยะสั้น ๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบแบใช้กำลัง สรุปการใช้ฤกษ์นี้ โจรจะไปปล้นบ้านใครให้ถือเอาฤกษ์นี้ ฤกษ์แหกคุก ฤกษ์หนีการจับกุม การเอาเปรียบคนอื่น จะไปจับผิดใครให้ใช้ฤกษ์นี้ การปรับทุจริต เป็นฤกษ์ฉกฉวย หรือเป็นการข่มคนอื่น ไปต่อสู้คดี ขึ้นโรงขึ้นศาล คือการทำเพื่อให้ชนะคนอื่น หรือแม้กระทั่งการเอาเปรียบคนอื่น ฤกษ์นี้ยังหมายถึง การท่องเที่ยว การผจญภัย การสอบชิงทุน การแข่งขัน การแข่งกีฬา การข่มขวัญศัตรู การปรับปรุงแก้ไข การปฏิวัติ รวมทั้งเอารถออกจากอู่ (จากการซ่อม) หรือออกจากโชว์รูม (ถอยรถใหม่) ฤกษ์นี้ไม่เหมาะในการลงทุน อาจทำให้ผิดหวังและถูกเบียดเบียนจากคนในเครื่องแบบ 4. ภูมิปาโลฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 4 , 13 และ 22 เรียกว่า ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีพระพุธเป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่างๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน การเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิ แต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท เปิดอาคารห้างร้าน และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง สรุปการใช้ฤกษ์นี้ ฤกษ์นี้ที่ใช้ในการทำให้มั่นคงระยะยาว ไม่ใช่ฤกษ์หวังผลในระยะสั้นๆ เช่น สร้างหอพัก สร้างบ้านจัดสรร เพื่อกินกำไรในระยะยาว ให้ความสมบูรณ์พูนสุข ความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่หวังผลรวดเร็ว แต่หวังผลในระยะยาวคือนานๆ (มั่งคงถาวร) ฤกษ์นี้เหมาะสำหรับ ลงเสาเข็ม ตั้งศาลพระภูมิ ก่อสร้างวัตถุที่ถาวร หอพัก การพัฒนาการเกษตร เปิดร้าน เปิดโรงงานอุตสาหกรรม สัญญาซื้อขายที่หวังผลระยะยาว อะไรที่เจราที่หวังผลสำเร็จในระยะยาวและมั่นคงถาวร (ไม่ฉาบฉวย) ให้ใช้ฤกษ์นี้ และงานมงคลทั้งปวง 5. เทศาตรีฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 5 , 14 และ 23 เรียกว่า เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หญิงแพศยา ผู้ท่องเที่ยว บางคราเรียกว่า "เวสิโยฤกษ์" หมายถึงฤกษ์พ่อค้า-แม่ค้า มีพระเสาร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และ ต้นราศีหนึ่ง แห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน , กันย์กับตุลย์ และ มกรกับกุมภ์ เป็นฤกษ์อกแตก หรือ พินทุฤกษ์ หรือ ตินฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น เกี่ยวกับความสนุกสนานชักชวนคนเข้าออกมาก เปิดโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ ซ่องโสเภณี โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเร่ร่อน อาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ สรุปการใช้ฤกษ์นี้ เป็นฤกษ์ที่ชอบคนเยอะๆ เช่น คนมาเที่ยว รื่นเริง บันเทิง สนุกสนาน เช่น เปิดโรงแรม เปิดสรรพสินค้า เปิดอาบ อบ นวด เปิดสถานบันเทิง เงินแสดงคอนเสิร์ตของนักดนตรี เปิดบู๊ตแสดงสินค้า หรือกิจการที่ต้องการให้คนต่างประเทศมาเที่ยว รวมทั้งการทำอะไรที่สนุกสนาน รื่นเริง ฟุ่มเฟือย (บาร์ ไนต์คลับ โรงภาพยนตร์ ภัตตาคาร โรงแรม ตลาดสด ช๊อปปิ้งเซ็นเตอร์) 6. เทวีฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 6 , 15 และ 24 เรียกว่า เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และ การสมความปรารถนา มีพระพฤหัสฯ เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า การประชาสัมพันธ์ ลาสิกขาบท ขึ้นบ้านใหม่ ขอความรัก งานเพื่อความสงบเรียบร้อย และ สารพัดงานมงคลทั้งปวง สรุปการใช้ฤกษ์นี้ ฤกษ์สู่ขอ หมั้น แต่งงาน ขอความช่วยเหลือจากสตรี (ผู้หญิง) ฤกษ์ที่ใช้ความโอ่อ่า หรูหรา สง่า งาม สวย รวมทั้งศิปละ ออกแบบ ตกแต่ง สวย หรู เช่น โชว์อัญมณี เครื่องประดับ ให้ใช้ฤกษ์นี้ 7. เพชฌฆาตฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 7 , 16 และ 25 เรียกว่า เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำหน้าที่ฆ่า มีพระราหูเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 แตกขาดกัน และ ตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า "ตรินิเอก" คืออยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลเลย เป็น ฉันทฤกษ์ (ฤกษ์แตกขาด) เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่างๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยากๆ การยาตราทัพ เจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ คล้ายกับโจโรฤกษ์ แต่ฤกษ์นี้จะแรงกว่า สรุปการใช้ฤกษ์นี้ ฤกษ์แห่งความเด็ดขาด เผด็ดการ งานปราบปราม กำจัดศัตรู ทำพิธี ไสยศาสตร์ ฤกษ์ที่ต้องการใช้ความเด็ดขาด กล้าหาญ การตัดสินใจที่เด็ดขาด จะเลิกกับแฟนให้ใช้ฤกษ์นี้ได้ หรือสามีภรรยาจะหย่ากันให้ใช้ฤกษ์นี้ การผ่าตัด การปลูกเศกของขลัง ใช้ฤกษ์นี้ได้ ฤกษ์นี้สามารถใช้ในการเปลี่ยนชื่อได้ เพราะต้องการความมั่งคง หนักแน่น ไม่ต้องต้องเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก 8. ราชาฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 8 , 17 และ 26 เรียกว่า ราชาฤกษ์ แปลว่าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีพระศุกร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจการของผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำกิจการขึ้นไปจนถึงพระราชา เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานราชพิธี งานราชการงานเมือง สร้างที่ประทับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ งานมงคลสมรสที่หรูหรามีเกียรติ ลาสิกขาบท การขึ้นบ้านใหม่(สามัญชนควรเว้น ถ้าหาฤกษ์ไม่ได้ก็พออนุโลมใช้ได้ เพื่อดวงชะตาและความเหมาะสม) และ งานมงคลทั้งปวง สรุปการใช้ฤกษ์นี้ ฤกษ์สูง ฤกษ์ใหญ่โต เป็นฤกษ์ของบุคคลชั้นสูง มีเกียรติ หรือว่างานนั้นมีผู้ใหญ่ เจ้านายมาร่วมทำพิธีด้วย ฤกษ์นี้ใช้ได้กับงานมงคลทั้งปวง 9. สมโณฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 9 , 18 และ 27 เรียกว่า สมโณฤกษ์ แปลว่า (สงบเรียบร้อย นักบวช นักสอนศาสนา มีพระเกตุเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน แต่บาทฤกษ์สุดท้ายนี้เป็นนวางค์ขาดสุดราศีพอดี เรียกว่า "จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์" จึงเป็นจุดที่มีผลเสียให้เกิดอันตรายต่างๆ ในการแข่งขัน ใช้ได้เฉพาะกิจเกี่ยวกับความสงบความสุจริต เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และ ทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และ การกระทำทุกอย่างเพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข สงเคราะห์ในฤกษ์นี้ได้ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ สรุปการใช้ฤกษ์นี้ ฤกษ์สงบ บวชพระ สึกพระ งานเกี่ยวกับศาสนา งานที่ไม่หวังผลรวดเร็ว ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการช่วงชิงกับผู้อื่น งานการกุศลทั้งปวง เช่น สร้างศาลาการเปรียญ หรือถาวรวัตถุ งานพุทธาภิเษก หล่อพระ ปฏิบัติธรรม เรียนธรรมะ เปิดสำนักโหรดูดวง เปิดห้องสมุด เปิดสถานที่สาธารณะ ทำบุญต่ออายุ ต่อชะตา ขึ้นบ้านใหม่ เปิดมูลนิธิ เผยแพร่ศาสนา งานการกุศลทั้งหลาย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
