ยินดีต้อนรับ กรุณา สมัครสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบ

Home » หุ้น NER
เข้าชม : 269

NER วัน Opportunity Day มีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น

โพสต์เมื่อ: วันพฤหัสบดี 15 สิงหาคม 2562  11:42 น.
NER ย้ำรายได้ปีนี้ 1.35หมื่นลบ.ลุ้นปี 63 ขายยางให้มิชลิน 1พันตัน/เดือน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -14 ส.ค. 62 15:11 น.

 

นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) ว่าปี 63 ลุ้น "มิชลิน"ตรวจมาตรฐานผ่าน คาดส่งมอบยาง 1 พันตัน/เดือน พร้อมลุยตลาดสินค้า High Margin ที่มี Gross Profit Margin ไม่ต่ำกว่า 8-12%  ประเมินสัดส่วนยอดขายเงินบาทปรับเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากปัจจุบัน 60% ปีนี้ย้ำเป้าหมายรายได้ 1.35 หมื่นลบ. เชื่อรัฐหนุนราคายางกลับขึ้นแตะ 60บ./ก.ก.

   - ทิศทางปี 2563 จะเพิ่มเป้ายอดขายที่มีสัดส่วนเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้นเป็น 70% จากเดิมที่ปีนี้ตั้งเป้าไว้ 60% เพื่อลดปัญหาอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน

   - ในปีหน้าคาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญากับลูกค้ารายใหม่ "มิชลิน" ซึ่งจะเข้ามาตรวจสอบคุณภาพโรงงานภายในสิ้นปีนี้เพื่อสั่งซื้อสินค้ายางแผ่นรมควัน ซึ่งหากผ่านมาตรฐานดังกล่าว บริษัทฯ จะมียอดขายยางเพิ่มขึ้นประมาณ 1,000 ตันต่อเดือน

   - รายได้ปีนี้คาดอยู่ที่ระดับประมาณ 13,500 ล้านบาท จากสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 10,084.01 ล้านบาท ด้านอัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) จะรักษาไว้ที่ระดับประมาณ 3-6% เนื่องจากบริษัทขายสินค้าล่วงหน้าจนถึงไตรมาส 4/62 ได้เกือบเต็มจำนวนแล้ว โดยปัจจุบันขายได้รวม 255,000 ตัน จากเป้าหมายยอดขายในปีนี้ 260,000 ตัน

   - ปัจจุบันลูกค้าระยะยาว (Long Term) เพิ่มขึ้นเป็น 11 ราย จากปีก่อนมี 8 ราย เนื่องจากในช่วงไตรมาส 2/63 จะมีกำลังการผลิตจากโรงงานใหม่เข้ามารองรับ โดยโรงงานใหม่มีกำลังการผลิตเต็มที่ 170,000 ตันต่อปี แต่บริษัทตั้งเป้าการใช้เพียง 70%  ซึ่งโรงงานเดิมมีกำลังการผลิตเต็มที่ได้ 290,000 ตันต่อปี ปัจจุบันใช้เพียง 260,000 ตัน รวมกำลังการผลิตเต็มที่ทั้งของเก่าและใหม่เป็น 460,000 ตันต่อปี ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าทั้งหมดรวมระยะสั้นและยาวประมาณ 29-30 ราย

          - โดยลูกค้าใหม่รายใหญ่ล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ Zhongce rubber(จงเช่อรับเบอร์) ซึ่งเป็นผู้ผลิตล้อยางรถยนต์ขนาดใหญ่ 1 ใน 10 ของประเทศจีนที่เข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทย โดยบริษัทเริ่มมีคำสั่งซื้อ(Order) บางส่วนเข้ามา แต่คาดว่าจะเริ่มเซ็นสัญญาคำสั่งซื้อระยะยาวเข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/63 หลังโรงงานใหม่เริ่มผลิตได้ ทั้งนี้ลูกค้ารายนี้ยังไม่รวมอยู่ในลูกค้าระยะยาว 11 ราย

          - ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาทำผลิตภัณฑ์ที่มีมาร์จิ้นสูง (High Margin) ร่วมกับกลุ่มมหาวิทยาลัยหลายแห่งในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่(R&D) คาดจะเริ่มเห็นความชัดเจนในปี 2563 โดยมีอัตรากำไรสุทธิ (Gross Profit Margin) ไม่ต่ำกว่า 8-12% สูงกว่าผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอัตรากำไรสุทธิ 3-6%

    - ราคาขายยางในปัจจุบันเฉลี่ยอยู่ที่ 46 บาท/กิโลกรัม ปรับตัวลดลงจากช่วงไตรมาส1และ2/62 ที่เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 60 บาท/กิโลกรัม โดยมองแนวโน้มราคายางหลังจากนี้หากรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือตามนโยบายหาเสียง คาดว่าราคายางจะมีโอกาสกลับขึ้นไปในระดับเดิมได้ไม่ยาก เนื่องจากสินค้าในตลาด (Supply) มีไม่มาก


s


คุณต้องสมัครสมาชิก ถึงจะโพสกระทู้ได้

สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ