ยินดีต้อนรับ กรุณา สมัครสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบ

Home » หุ้น WHA
เข้าชม : 266

เลื่อนเปิดขายโครงการนิคมฯร่วมทุนกับ IRPC ไปเป็นปี 64 จากเดิม ปี 63

โพสต์เมื่อ: วันอังคาร 27 สิงหาคม 2562  12:10 น.
WHA ย้ำรายได้ปีนี้โต 70% จากขายที่ดินเพิ่ม `จรีพร`ยันถือหุ้น 45-46%

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -23 ส.ค. 62 17:35 น.

 

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยในงาน "พิธีลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินและเช่าโรงงานสำเร็จรูป" ระบุ มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 70% แย้มอยู่ระหว่างเจรจาขายที่ดินเพิ่ม หวังตุน Baclog ในมือ ที่มี 1 พันไร่ แจงเลื่อนเปิดขายโครงการนิคมฯร่วมทุนกับ IRPC ไปเป็นปี 64 จากเดิม ปี 63 หลังขอ EIA เพิ่ม จากเดิม 1,800 ไร่ เป็น 2,000 ไร่ ล่าสุด ขายที่ดิน 56 ไร่- ปล่อยเช่าโรงงานฯ 4,700 ตร.ม. ให้กับ GESAC พร้อมยันไม่ได้โยน Big Lot 6.6 ล้านหุ้น ที่ราคา 4.78 บาท/หุ้น พร้อมกอดหุ้นแน่น 45-46% โดยมีสาระสำคัญดังนี้

  -บริษัทมั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้าหมายที่ 70% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 11,622.20 ล้านบาท ซึ่งครึ่งปีนี้มีรายได้แล้ว 6,877.10 ล้านบาท เกิดจากการขายที่ดินในอุตสาหกรรม ปีนี้ตั้งเป้าขายที่ดินรวม 1,600 ไร่ แบ่งเป็นในไทย 1,400 ไร่ และ ในเวียดนาม 200 ไร่ ครึ่งปีที่แรกขายที่ดินได้แล้ว 300 ไร่ และ ช่วงที่เหลือของปีนี้อยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติมอีก โดยเฉพาะในไตรมาส 4 มีดีล ประมาณ 1,000 ไร่ ผู้ซื้ออยู่ระหว่างทำการขออนุญาตจากทางรัฐบาลของประเทศตนเอง ในขณะที่ของไทยต้องรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในขณะที่เวียดนามปีนี้ตั้งเป้าไว้ 200 ไร่ ครึ่งปีแรก มีการเซ็นสัญญาแล้ว 83 ไร่ และ เชื่อว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

  "ยอดขายที่ดินเราไม่ได้เป็นห่วง ทุกอย่างยังเดินไปตามแผน ที่สำคัญตอนนี้คนจีนเข้ามาลงทุนในนิคมมากขึ้น โดยสัดส่วนนักลงทุนจีนสูงถึง 30% ไต้หวัน 13% ในขณะที่ญี่ปุ่นและไทยก็มีอยู่เช่นเดียวกัน โดยส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และ ยานยนต์"

  - ปัจจุบันมีที่ดินรอโอน (backlog) ในปีนี้อีก 1,100 ไร่ คาดจะรับรู้ในปีนี้ 50-60% หรือ 600-700 ไร่ ปัจจุบันบริษัทยังมองหาซื้อที่ดินเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องเพื่อเติมที่ดินในมือรองรับการขยายตัวของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมที่ปัจจุบันมีธุรกิจดังกล่าวสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30%

  -สำหรับความคืบหน้าในการพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมบ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่งบริษัทได้มีการร่วมทุนโดยบริษัทถือหุ้นสัดส่วน 60% ร่วมกับ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRCP ที่ถือหุ้นอีก 40% คาดว่าจะสามารถเปิดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ช้ากว่าแผนเดิมที่วางไว้ในปี 63 เลื่อนไปเป็นปี 64 เนื่องจากจะต้องดำเนินการกระบวนการในการทำยื่นขอประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) เพิ่ม เพราะได้มีการขอพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มจากจำนวนประมาณ 1,800 ไร่ เป็น 2,200 ไร่

  -กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ปีนี้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย โดยในครึ่งปีหลังมีสัญญาที่อยู่ระหว่างรอทยอยเซ็นสัญญาให้เช่าพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร จากในช่วงครึ่งแรกปีที่มีการเช่าพื้นที่ไปแล้ว 51,000 ตารางเมตร จากเป้าหมายทั้งปีนี้ที่จะขยายพื้นที่เช่าคลังสินค้าเพิ่ม 250,000 ตารางเมตร

  -กลุ่มธุรกิจการขายไฟฟ้า ล่าสุด บริษัทได้มีความคืบหน้าล่าสุดในโครงการ Waste-to-energy หรือ การผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม โดยจะสามารถจ่ายไฟเชิงพาณิชย์(COD) ได้ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ จากแผนเดิม 1 ม.ค. 63 ซึ่งมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 9 MW และ จะใช้เอง 7.5 MW และ ขายไฟ 2 MW โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท

  - ปีนี้บริษัทวางงบลงทุนรวมไว้ที่ 10,000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 5,000 ล้านบาท

  - ปี 63 บริษัทมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ 10,000 ล้านบาท และ อายุหุ้นกู้เฉลี่ยอยู่ที่ 3-7 ปี ซึ่งช่วงนี้ดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลงโดยหากภาวะตลาด และ ดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เหมาะสม บริษัทก็จะออกหุ้นกู้เป็นระยะยาวมากขึ้น หรือ เฉลี่ยที่ 10 ปี ซึ่งดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ 3% โดยจะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงด้วยมาอยู่ที่ 3.5% จากเดิม 3.7% และ มีหนี้สินต่อทุน(D/E) อยู่ที่ 1.2 เท่า

  - ในช่วงเช้าวันนี้มีการขายหุ้น Big Lot จำนวน 6.6 ล้านหุ้น ในราคาที่สูงกว่ากระดานที่ราคา 4.78 บาท/หุ้น หรือ คิดเป็นมูลค่า 31.54 ล้านบาท ยืนยันว่า ในส่วนของตนเองไม่ได้มีการขายหุ้นออกไปแต่อย่างใด ปัจจุบันยังถือหุ้นในสัดส่วน 45-46% และ สถาบัน และ ต่างชาติถือหุ้นรวมกันประมาณ 20% ซึ่งที่ผ่านมามีสถาบันในประเทศ และ ต่างประเทศให้ความสนใจที่จะเข้ามาถือหุ้นบริษัทเป็นอย่างมาก ยังยืนยันว่าไม่มีนโยบายที่จะขายหุ้นที่ตนเองถืออยู่ออกไป หากต้องการถือหุ้นเพิ่มต้องไปซื้อในกระดานเท่านั้น

  “ผลการดำเนินงานปีนี้จะเติบโต หรือ สูงกว่าปีก่อน โดยคาดว่าจะสูงสุดในไตรมาส 4/62 และ จะมีการเติบโตที่ดีในปี 63 มากขึ้น เพราะเราจะรับรู้รายได้ที่เราลงทุนไปในหลายธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา”

  -ล่าสุด บริษัทได้ลงนามในสัญญา 2 ฉบับร่วมกับ บริษัท โกลเดน อีเกร็ต ซีเมนต์ คาร์ไบด์(ไทยแลนด์) จำกัด ในเครือบริษัท เซียะเหมิน โกลเดน อีเกร็ต สเปเชียล อัลลอย จำกัด ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในประเทศจีน โดยสัญญาประกอบด้วย สัญญาซื้อขายที่ดิน 56 ไร่ และ สัญญาเช่าโรงงานสำเร็จรูป พื้นที่ 4,700 ตารางเมตร เป็นเวลา 3 ปี ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 ซึ่ง GESAC จะใช้โรงงานสำเร็จรูปดังกล่าวเพื่อเริ่มกระบวนการผลิตในระหว่างการก่อสร้างโรงงาน

  -สำหรับ GESAC วางแผนใช้เงินลงทุน 2.5 พันล้านบาท สำหรับการดำเนินงานในประเทศไทยระยะเวลา 3-4 ปีข้างหน้า โดยการเช่าโรงงานสำเร็จรูป (RBF) จะช่วยให้ GESAC สามารถเริ่มดำเนินการผลิตได้ทันที ในระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตแห่งใหม่ในนิคมของบริษัท ซึ่งนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีเทิร์นซีบอร์ด 1 ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรีและระยอง ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 8,003 ไร่ โดยเป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมเป้าหมายในโครงการ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) ซึ่งเหมาะต่อการดำเนินการ หรือ รองรับกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น กลุ่มยานยนต์ โลหะภัณฑ์ พลาสติก และ โพลีเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ บรรจุภัณฑ์ และ สินค้าอุปโภค อุปกรณ์ก่อสร้าง โลจิสติกส์


s


คุณต้องสมัครสมาชิก ถึงจะโพสกระทู้ได้

สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ