AGE หั่นเป้ารายได้ปีนี้เหลือ 8 พันลบ.เหตุราคาถ่านหิน-ยอดขายชะลอ
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -18 ก.ย. 62 15:43 น.
นายลิขิต เลาบวรเศรษฐี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยในงาน Oppertunity Day ในวันนี้ว่า บริษัทหั่นเป้ารายได้ปีนี้ลดลงเหลือ 8,000 ล้านบาท จากเดิม 9,000 ล้านบาท ส่วนยอดดขายลดลงเหลือ 3.5 ล้านตัน จากเดิมที่ 4 ล้านตัน เตรียมแผนที่จะขยายท่าเรือ รองรับการขนส่งสินค้าเพิ่มอีก 2 ท่า เป็น 4 ท่า โดยมีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้
-บริษัท ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้ลงเหลือ 8,000 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้า 9,000 ล้านบาท ขณะที่ปริมาณการขายถ่านหินคาดว่าจะลดลงเหลือ 3.5 ล้านตัน จากเดิมคาด 4 ล้านตัน ซึ่งสาเหตุที่บริษัทปรับลดเป้ารายได้และปริมาณการขายลดลงนั้น เป็นผลจากราคาถ่านหินโลกในปีนี้ปรับลดลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง และการปรับนโยบายนำเข้าถ่านหินของจีนที่ส่งผลให้ปริมาณการขายปรับตัวลดลง
-อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่า ปริมาณการใช้ถ่านหินน่าจะเพิ่มขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยเฉพาะเวียดนาม และอินเดีย
“ปี 2562 บริษัท ปรับเป้ารายได้ลง สะท้อนงบครึ่งปีแรกที่ชะลอลงด้วย โดยปีนี้ปรับลดเป้ารายได้เหลือ 8,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายถ่านหินลดลงอยู่ที่ 3.5 ล้านตัน สำหรับครึ่งปีแรกมียอดขายถ่านหินแล้ว 1.4 ล้านตัน ส่วนครึ่งปีหลังจะต้องมียอดขายอีกประมาณ 2 ล้านกว่าตัน เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยปัจจุบัน บริษัทมี Backlog อยู่ประมาณ 1 ล้านตัน รวมถึงพยายามขยายตลาดและเข้าหาลูกค้ามากขึ้นในกลุ่มวียดนามด้วย”นายลิขิต กล่าว
-ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้ในธุรกิจบริการเติบโตที่ 6-7% และจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปีหน้า จากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด โดย AGE ถือหุ้น 45% และบริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 45% และ บริษัท แอพไพล์แอ๊ซ เทคโนโลยี ซัพพลายส์ จำกัด ถือหุ้น 10% ภายใต้ทุนจดทะเบียน 300,000,000 บาท ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการจัดหาและการให้บริการด้านสาธารณูปโภค ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจด้านบริการของบริษัทแข็งแกร่งมากขึ้น
-ด้านการขยายท่าเรือ บริษัท ตั้งเป้าหมายขยายท่าเรือเพิ่มอีก 2 แห่ง เพื่อรองรับกับปริมาณดีมานที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปริมาณการเข้าออกสินค้า โดยท่าเรือที่ 3 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในต้นเดือนตุลาคมนี้ และสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4/62 ขณะที่ท่าเรือที่ 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งปีแรกของปีหน้า
- ภาพรวมธุรกิจในช่วง ครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯยังคงวางกลยุทธ์ ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อต่อยอดการเติบโตของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแผนการขยายการลงทุนในธุรกิจโลจิสติกส์ ด้านขนส่งทางน้ำและทางบก รวมทั้งการให้บริการท่าเรือ และคลังสินค้ามากขึ้น เนื่องจากมองว่า กลุ่มธุรกิจดังกล่าวยังคงมีมาร์จิ้นดี ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อภาพรวมบริษัทฯในระยะยาว เพื่อการต่อยอดและเพิ่มสัดส่วนรายได้ ให้มีศักยภาพความแข็งแกร่งทางการเงิน แบบมั่นคงและยั่งยืนต่อไปในอนาคต
- บริษัทฯ ยอมรับว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน จากธนาคาร เพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK ) มูลค่า 342.40 ล้านบาท บริษัทฯได้นำไปขยายการลงทุนในการต่อเรือลำลียงเพิ่ม จำนวน 16 ลำ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสั่งต่อเรือ และคาดว่า จะทยอยส่งมอบได้ทั้งหมดในปี 2563 ส่งผลให้บริษัทฯ มีจำนวนกองเรือลำลียง เพิ่มขึ้นเป็น จำนวน 40 ลำ จากปี 2562 ที่มีเรือลำเลียง จำนวน 24 ลำ