29 ตุลาคม 2562 | 13:39
หุ้น CHAYO ยังคงซื้อขายคึกคักในวันนี้ แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาสูงในช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมา ซึ่งก็พบว่านักวิเคราะห์เริ่มยกระดับให้เป็นหุ้น Growth Stock แล้ว ประเด็นแรกคือกำไรสุทธิจะทำนิวไฮต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะที่กำไรสุทธิในปี 62 - 64 จะเติบโตถึง 29.3% CAGR หลังจากการหันมารุกหนี้ที่มีหลักประกันเสริม และราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าต่ำมาก แต่สิ่งที่ต้องระวังคือการเน้นสินทรัพย์ไปที่อสังหาฯซึ่งอยู่ในภาวะซบเซาขณะนี้จะเป็นเรื่องดีจริงหรือไม่ ?
วันนี้ บมจ.ชโย กรุ๊ป หรือ CHAYO เปิดตลาดยังซื้อขายคึกคักปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 107.85% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า แม้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นมาแรงมากในช่วง 10 วันทำการที่ผ่านมาจาก 4.50 บาท
โดยช่วงเช้าวันนี้ราคาหุ้น CHAYO ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 5.15 บาท และลงไปทำจุดต่ำสุดรอบเช้าที่ 4.98 บาท ก่อนมาปิดตลาดรอบเช้าที่ 5 บาท ลดลง 0.05 บาท หรือ 0.99%
CHAYO เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ไปเมื่อวันที่ 22 มี.ค. 61 ด้วยราคาไอพีโอที่ 2.88 บาท ปัจจุบันประกอบธุรกิจการเจรจาติดตามและเร่งรัดหนี้สิน และบริหารสินทรัพย์จากการรับซื้อหรือรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันจากสถาบันการเงิน และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า
ในแง่กำไรสุทธิของ CHAYO ทำได้ดีต่อเนื่องตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาด โดยปี 60 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 58 ล้านบาท และปี 61 เพิ่มขึ้นมาเป็น 85 ล้านบาท ขณะที่ช่วงครึ่งแรกปี 62 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60 ล้านบาท เติบโตแรงถึง 58% จากช่วงเดียวกันปีก่อน มากกว่าที่ทำได้ในปี 60 ทั้งปีไปแล้ว
*** ข่าวดีแรก กำไรสุทธิในช่วงที่เหลือของปีจะยังโตต่อ จบปี 62 อาจมีกำไรสุทธิถึง 119 - 123.5 ล้านบาท
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า หลังจากที่ทำกำไรสุทธิได้ดีในครึ่งปีแรกแล้ว เชื่อว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3/62 จะทำสถิตินิวไฮได้ต่อเนื่องอยู่ที่ 36 ล้านบาท โต 41% YoY และ 9% QoQ ปัจจัยสนับสนุนหลักคือ รายได้จากการรับซื้อหนี้มาบริหารปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการขายหนี้ที่มีหลักประกันได้การรับรู้รายได้จากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันบางกองที่ตัดต้นทุนหมด ส่วนต้นทุนในการให้บริการและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยรวมคาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน ส่วนไตรมาส 4/62 คาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง
ดังนั้นคาดกำไรสุทธิปี 62 จะอยู่ที่ 119 ล้านบาท โตถึง 40% จากปีก่อน แต่เนื่องจากกำไรสุทธิงวด 9 เดือนคิดเป็นรายได้ถึง 86% ของประมาณการทั้งปีแล้ว ทำให้มีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการขึ้นอีก เนื่องจากรายได้การรับซื้อเข้ามาบริหารในช่วง 9 เดือนมากกว่าที่คาดไว้มาก และไตรมาสสุดท้ายเป็นช่วงที่จะเข้าซื้อหนี้ได้มากขึ้น
แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 63 ที่ 6.20 บาท อิง P/BV 3 เท่า
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า เริ่มมอง CHAYO เป็น Growth Stock โดยมองกำไรสุทธิปี 62 โตแตะ 123 ล้านบาท โต 44.5% จากกำไรสุทธิในช่วงครึ่งหลังปี 62 จะยังทำได้ดีต่อเนื่อง จากแรงส่งของธุรกิจซื้อหนี้ ทั้งการรับรู้รายได้จากหนี้ที่ไม่มีหลักประกันที่เติบโตจากกองหนี้ในปี 57 - 58 เริ่มตัดต้นทุนหมด
ขณะที่หนี้ที่มีหลักประกันสามารถขายหลักประกันได้ต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3/62 ขายหลักประกันทั้งหมด 3 แห่ง มูลค่า 32 ล้านบาท คาดรับรู้เป็นกำไรราว 50% และไตรมาส 4/62 จะขายเพิ่มอีก 2 - 3 แห่ง
แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมปี 63 หลังขึ้น XD อยู่ที่ 6.20 บาท อิง P/BV ที่ 3.7 เท่า ซึ่งเป็นระดับ Mean + 1 SD โดยวันที่ 8 พ.ย. จะพิจารณาจ่ายปันผลเป็นหุ้น จำนวน 30 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 20 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และเงินสดอีก 0.00277 บาท/หุ้น รวมเป็นมูลค่าปันผล 0.025 บาท/หุ้น
*** ต่อมาปี 62 - 64 คาดกำไรโต 29.3% CAGR หลังเริ่มรุกหนี้มีหลักประกัน หวังใช้ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาฯช่วย
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุต่อว่า ขณะที่แนวโน้มกำไรปี 62 - 64 ถือว่าเติบโตได้ถึง 29.3% CAGR เพราะด้วยสถานการณ์ปัจจุบันที่ปริมาณ NPL ในกลุ่มสินเชื่อมีหลักประกันเพิ่มขึ้นในตลาด ทำให้ CHAYO ที่มีความชำนาญในด้านอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว สามารถเข้ามารุกตลาดนี้ได้เต็มสูบ ด้วยเงินลงทุนถึง 80% ของเงินลงทุนในปี 61
ซึ่งในปี 63 คาดรายได้รวมอยู่ที่ 487 ล้านบาท โต 38% YoY และคาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 143.6 ล้านบาท โต 16.3% YoY หลักๆมาจากรายได้หนี้มีหลักประกันที่เพิ่มขึ้น 86.7% YoY มาเป็น 235.6 ล้านบาท ตามพอร์ตหนี้ที่เพิ่มขึ้นในปี 61 -62 ส่วนหนี้ไม่มีหลักประกันจะโตต่อเนื่องที่ 8.9% YoY มาที่ 185 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจติดตามหนี้คาดอยู่ที่ 53.3 ล้านบาท โต 5% YoY
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจะทรงตัวในระดับสูงที่ 66% ส่วน SG&A/Sales จะเพิ่มขึ้นมาที่ 21.5% จากปีก่อน 21% สอดคล้องกับการขยายตัวของรายได้หนี้มีหลักประกัน ซึ่งมีค่าธรรมเนียมการโอนและภาษีธุรกิจในการขายหลักประกัน
*** ราคาปัจจุบันต่ำ สวนทางการเติบโตรอบใหญ่
ในแง่ของราคาหุ้นปัจจุบันถือว่าซื้อขายในระดับ PBV63F ที่ต่ำ (*ผู้สื่อข่าวคำนวณราคาหุ้นปัจจุบันที่ 5 บาท เทียบกับประมาณการของบล.โนมูระ พัฒนสิน คิดเป็น PBV63F อยู่ที่ 2.97 เท่า) เทียบกับค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาด (19 เดือน) ที่ 3.2 เท่า และต่ำกว่า Mean(19 เดือน)ของ JMT ที่ 3.85 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่สวนทางกับผลประกอบการที่จะเข้าสู่ช่วงการเติบโตรอบใหญ่ใน 3 ปีข้างหน้า
*** D/E จะเพิ่มขึ้น จากการกู้เงินลงทุนในอัตราเร่ง
บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุต่อเนื่องว่าอย่างไรก็ดีการเร่งลงทุนของ CHAYO อาจจะทำให้อัตราส่วนหนี้ต่อส่วนผู้ถือหุ้น(D/E)เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะ จากสิ้นไตรมาส 2/62 ที่ต่ำเพียง 0.07 เท่า
โดยครึ่งหลังปี 62 CHAYO จะเริ่มหาแหล่งเงินทุนเพิ่ม คาดว่าเป็นการใช้หนี้สินระยะยาว จากแผนออกหุ้นกู้เพิ่ม 400 ล้านบาท จากวงเงิน 1,250 ล้านบาท ทำให้สิ้นปี 62 ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16.3 ล้านบาท จากปีก่อนที่จ่ายดอกเบี้ยเพียง 2.87 ล้านบาท คิดเป็น D/E อยู่ที่ 0.47 เท่า
ส่วนในปี 63 คาดว่าจะออกหุ้นกู้เพิ่มอีก 600 ล้านบาท เพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับซื้อหนี้ โดยคาดว่าจะมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 7% ดังนั้นค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสิ้นปี 63 จะเพิ่มขึ้นมาเป็น 37.4 ล้านบาท และมี D/E อยู่ที่ 0.97 เท่า
*** ธุรกิจปล่อยสินเชื่ออาจทำไม่ได้ตามเป้าหมาย
บล.ทรีนีตี้ ระบุว่า ธุรกิจปล่อยสินเชื่อซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าทำได้ต่ำเพียง 6 ล้านบาทเนื่องจากเป็นช่วงทดลองตลาด ดังนั้นทั้งปีอาจจะทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ 200 ล้านบาท อย่างไรก็ดีธุรกิจปล่อยสินเชื่อยังไม่นำเข้ามาคำนวณในประมาณการอยู่แล้ว
*** อสังหาฯ หืดจับแบบนี้ การรุกปล่อยบ้านมือสองอาจไม่ใช่จังหวะที่ดีหรือไม่ ?
นางสาวอัญชนา วัลลิภากร กรรมการที่ปรึกษา สมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยจากแนวโน้ม การจัดงาน มหกรรมบ้านมือสอง และสินเชื่อแห่งปี 2562 ว่า จากการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล(Big Data) ยังพบว่าแนวโน้มทรัพย์สินรอการขายของธนาคารพาณิชย์(NPA) มีราคาปรับลดลงไปอีกประมาณ 20% เทียบจากช่วงปกติภายในการจัดงานครั้งนี้
ซึ่งนายกิตติ พัฒนพงศ์พิบูล ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย ระบุว่า จากราคาอสังหาริมทรัพย์มือหนึ่งประเภทต่างๆ ทั้งแนวราบและแนวสูงมีการปรับราคาลงเพื่อการแข่งขัน ดังนั้นจึงส่งผลให้ทรัพย์มือสองปรับราคาลดลงตามไปด้วยเช่นกัน
การวิเคราะห์ของผู้สื่อข่าวพบว่า CHAYO เริ่มลงทุนเข้าซื้อหนี้ที่มีหลักประกันไปตั้งแต่ปี 61 แล้ว และจะขายทรัพย์ออกมาหลายแห่งในช่วงครึ่งหลังของปี 62 ด้วย ดังนั้นภาวะตลาดบ้านมือสองที่ตกต่ำ หากยังยืดเยื้อต่อไปก็อาจทำให้ต้องปรับราคาทรัพย์ลง หรืออาจทำให้รายได้ส่วนนี้ไม่เป็นไปตามคาดได้เหมือนกัน
ในแง่แผนงาน CHAYO ถือว่ามีโอกาสเป็น Growth Stock ได้ ทั้งธุรกิจเดิมอย่างบริหารหนี้ไม่มีหลักประกันที่เติบโตได้อย่างดี และการรุกหนี้มีหลักประกันซึ่งเป็นธุรกิจที่คู่แข่งหลายรายเพิ่งเริ่มต้น ก็น่าจะเข้ามาช่วยหนุนกำไรในช่วงถัดไปได้ดี หากบริษัทสามารถนำความเชี่ยวชาญในด้านอสังหาฯมาใช้ได้จริง!