Q1/62 กำไรสุทธิลดลง -1.24% YoY
Q2/62 กำไรสุทธิลดลง -23.32% YoY
Q3/62 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 10.88% YoY
EPS งบ MEGA
|
Q1 |
Q2 |
Q3 |
Q4 |
รวม |
ปี 2558 |
0.12 |
0.19 |
0.18 |
0.31 |
0.80 |
ปี 2559 |
0.13 |
0.25 |
0.19 |
0.34 |
0.92 |
ปี 2560 |
0.22 |
0.34 |
0.28 |
0.45 |
1.29 |
ปี 2561 |
0.30 |
0.33 |
0.29 |
0.47 |
1.39 |
ปี 2562 |
0.29 |
0.25 |
0.32 |
|
|
-------------------------
25/11/2562
บล.ทิสโก้ : MEGA แนะนำ“ถือ” มูลค่าที่เหมาะสม 33 บาท
|
MEGA : ผลประกอบการต่ำกว่าคาด แต่แนะนำให้ “ถือ”
บริษัทรายงานผลประกอบการ 3Q19 ที่ 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY และ 28% QoQ ต่ำกว่าคาดจากรายได้สินค้าที่ใช้แบรนด์บริษัทที่ลดลง หากไม่รวมผลขาดทุนจากค่าเงิน 13 ล้านบาท คิดเป็นกำไร 295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% YoY และ 25% QoQ
• รายได้เพิ่มขึ้น 8% YoY และ 8% QoQ ในช่วง 3Q19 โดยผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจค้าปลีกที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 12% YoY และ 10% QoQ จากยอดขายของสินค้าแบรนด์ที่เพิ่มขึ้น 5% YoY และ 7% QoQ สินค้า OEM ที่เพิ่มขึ้น 7% YoY แต่ลดลง 15% QoQ
• อัตรากำไรที่ลดลงเป็น 40.6% จากเดิม 41.8% YoY ลดลงตามอัตรากำไรของธุรกิจค้าปลีกและ OEM โดยบริษัทยังมีแผนรักษาระดับอัตรากำไรของสินค้าแบรนด์ที่ 63% YoY และการเพิ่มสัดส่วนสินค้าของ Maxxcare ที่ 50.1% เทียบกับปีก่อนที่ 49.3% ทำให้อัตรากำไรลดลง YoY
• เราปรับประมาณการรายได้ปี 2019-20F ลง 2% และ 3% ตามลำดับ พร้อมปรับอัตรากำไรลงเป็น 42.1% จากเดิมที่ 44.1 – 44.5%, SG&A ต่อยอดขายเป็น 30% จากเดิมที่ 31% ทำให้ผลประกอบการลดลง 12% และ 18% ตามลำดับ เป็น 1.1 และ 1.28 พันล้านบาท ทำให้มูลค่าที่เหมาะสมลดลงเป็น 33 บาท จากเดิมที่ 35.50 บาท อิง PER ที่ 22.50 เท่า และคิดเป็น PEG ที่ 1.8 เท่า ปรับคำแนะนำลงเป็น “ถือ”
|
|