บล.คาดกำไรสุทธิ Planb ปี 63 อยู่ที่ 386 ล้านบาท (-48%YoY) โดนพิษโควิด-19 โอลิมปิกเลื่อนรับรู้ไปปี 64 |
โพสต์เมื่อ: วันอังคาร 7 เมษายน 2563 14:12 น.
PLANB เลื่อนโอลิมปิกกระทบกำไร...แต่ทำไมราคาพุ่ง?
30 มีนาคม 2563
*** เลื่อนโอลิมปิก ทำปีนี้สูญกำไร 100 ลบ.
*** โควิด–19 ระบาด ฉุดอัตราการใช้สื่อโฆษณาของ PLANB หดตัวราว 50%
*** คาดปีนี้กำไรทรุด 50% -กำไรลดลงมากกว่ารายได้ เพราะต้นทุน 70% เป็นต้นทุนคงที่
*** นักวิเคราะห์แนะ “ซื้อ” หลังราคาลงเกินกว่าเหตุ ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่ง
|
RE :
บล.คาดกำไรสุทธิ Planb ปี 63 อยู่ที่ 386 ล้านบาท (-48%YoY) โดนพิษโควิด-19 โอลิมปิกเลื่อนรับรู้ไปปี 64 [ ความเห็นที่ 1]
โพสต์เมื่อ: วันอังคาร 7 เมษายน 2563 14:17 น.
บล.เคทีบี(ประเทศไทย) : PLANB แนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5 บาท
31/03/2563 เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.00 บาท (เดิม 8.00 บาท) อิง PER 36.3x เทียบเท่า -1SD Avg. PER 46.5x จากการปรับประมาณการกำไรสุทธิลง เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 และการเลื่อนกีฬาโอลิมปิกเป็นปี 2021 เราประเมินผลประกอบการ 1H20E ลดลง YoY จาก 1) รายได้ที่ลดลง YoY ในทุกสื่อ, 2) Gross profit margin ที่ลดลง YoY จาก Utilization rate ที่ลดลง ดังนั้น เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E – 21E ลง -37% และ -12% ตามลำดับ เราประเมินกำไรสุทธิปี 2020E ที่ 529 ล้านบาท (-29% YoY) ราคาหุ้น ปัจจุบันปรับตัวลง -26% (เมื่อเทียบกับ SET) ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้นและการเลื่อนกีฬาโอลิมปิก เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้เริ่มเข้าไป “ซื้อ” สะสม โดยเราคาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นใน 2H20E หลังสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ได้คลี่คลาย และเม็ดเงินโฆษณาเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบัน PLANB เทรดอยู่ที่ PER = 20.7x ต่ำกว่าที่-2SD Avg. PER = 46.5x Event: Company update กลุ่มสื่อ OOH ได้รับผลกระทบมากจาก COVID-19 ที่ยาวนานกว่าที่คาด เราประเมินผลประกอบการ 1H20E ลดลง YoY จาก 1) รายได้ที่ลดลง YoY ในทุกสื่อ จากการระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยที่ยังคงรุนแรงกว่าที่เราเคยคาด โดย Bank of Thailand ได้คาดการณ์ GDP ในปี 2020E ที่ -5.3% เราเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะทำให้กลุ่มผู้ใช้งบโฆษณาหลัก คือ กลุ่ม FMCG และค่ายรถยนต์ที่ลดกำลังการผลิตลง อีกทั้งยังได้ลดการใช้งบโฆษณาลง นอกจากนี้ การประกาศพรก.ฉุกเฉินทำให้ผู้บริโภคลดการออกจากบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มสื่อ OOH 2) Gross profit margin ที่ลดลง YoY จาก Utilization rate ที่ลดลง โดยใน 1H20E อยู่ที่ 55 - 58% ซึ่งลดลงจาก 1H19 ที่ 70% จากผลกระทบของ COVID – 19 ที่เริ่มรุนแรงขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.เราคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2H20E หลังสถานการณ์คลี่คลาย ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E/21E ลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E/21E ลง -37% และ -12% ตามลำดับ จากการปรับรายได้ปี 2020E/21E ลง -17.3%/ -4.9% ตามลำดับ และปรับ GPM ลงจาก Utilization rate ที่ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์เดิม เราประเมินกำไรสุทธิปี 2020E ที่ 529 ล้านบาท (-29% YoY) บนสมมติฐาน 1) รายได้รวมที่ 4,516 ล้านบาท (-7% YoY) จากผลกระทบของ COVID-19 ในช่วง 1H20E, การประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินส่งผลให้กิจกรรมต่างๆของ BNK48 ถูกเลื่อนออกไป, การเลื่อนการแข่งขันของฟุตบอลไทยลีก (ถึงวันที่ 18 เม.ย. 2020) และการเลื่อนจัดกีฬาโอลิมปิกไปเป็นปี 2021 ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้รายได้ของ PLANB, 2) Gross profit margin ที่ปรับตัวลดลง จาก Utilization rate ที่ลดลง, 3) Interest expense ที่เพิ่มขึ้นจาก TFRS 16 สำหรับปี 2021E เราคาดกำไรสุทธิที่ 863 ล้านบาท (+63%YoY) โดยปีนี้จะเป็นปีที่ PLANB กลับมาเติบโตโดดเด่น จากการรับรู้รายได้จาก 7- Eleven จำนวน 1,500 สาขาเต็มปี และขยายสาขาเพิ่ม, รับรู้รายได้จากกีฬาโอลิมปิกที่ 563 ล้านบาท (อิง สมมติฐานที่สปอนเซอร์เดิมยังคงสนับสนุน), รายได้สื่อ OOH ฟื้นตัว และ Utilization rate ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ GPM ขยายตัว Valuation/Catalyst/Risk ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.00 บาท (เดิม 8.00 บาท) อิง PER 36.3x (เทียบเท่า -1SD Avg. PER 46.5x) ปัจจุบัน PLANB เทรดอยู่ที่ PER = 20.7x ต่ำกว่าที่-2SD Avg. PER = 46.5x เรามองว่าปี 2020E ยังไม่ใช่ปีที่ดีของ PLANB เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่เรายังเชื่อมั่นว่าผลประกอบการ PLANB จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2021E จากความเป็นผู้นำสื่อ OOH เราคาดว่า PLANB จะสามารถ capture เม็ดเงินโฆษณาที่กลับมาฟื้นตัวในปี 2021E Key risks: เม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวกว่าคาด, COVID-19 ระบาดยาวนานกว่าคาด |
|