ยินดีต้อนรับ กรุณา สมัครสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบ

Home » หุ้น PLANB
เข้าชม : 252

บล.คาดกำไรสุทธิ Planb ปี 63 อยู่ที่ 386 ล้านบาท (-48%YoY) โดนพิษโควิด-19 โอลิมปิกเลื่อนรับรู้ไปปี 64

โพสต์เมื่อ: วันอังคาร 7 เมษายน 2563  14:12 น.
PLANB เลื่อนโอลิมปิกกระทบกำไร...แต่ทำไมราคาพุ่ง?

30 มีนาคม 2563 

PLANB เด้งอีกครั้ง หลังราคารูดติดฟลอร์ จากข่าวลบเลื่อนจัดโอลิมปิก โบรกฯประเมินทำกำไรปีนี้สูญกว่า 100 ล้านบาท แถมเจอวิบากกรรมโควิด–19 ฉุดธุรกิจสื่อโฆษณาซบเซา คาดอัตราการใช้สื่อโฆษณาของ PLANB ในปี 63 หดตัวราว 50% ขณะที่กำไรปีนี้จะลดลงครึ่งหนึ่งจากปีที่ผ่านมา แต่นักวิเคราะห์มองว่า ราคาหุ้นร่วงรับข่าวลบเกินกว่าเหตุ แนะ "ซื้อ" มั่นใจฐานะการเงินแข็งแกร่ง พร้อมลุยธุรกิจต่อ หากสถานการณ์กลับสู่ปกติ


ราคาหุ้น บมจ.แพลนบี มีเดีย หรือ  PLANB เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นมาเกือบ 6% มาปิดที่ระดับ 2.90 บาท ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นผิดปกติ +142.78% เมื่อเปรียบเทียบกับ 5 วันทำการก่อนหน้า


ก่อนหน้านี้ราคาหุ้น PLANB ปรับตัวร่วงติดฟลอร์ หลังจากได้ข้อสรุปว่า ญี่ปุ่นจะเลื่อนการจัดการแข่งขันโอลิมปิกออกไปเป็นปี 2564 ทำให้ราคาหุ้น PLANB ในปัจจุบันเป็นระดับราคาที่ต่ำสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯครั้งแรก


*** เลื่อนโอลิมปิก ทำปีนี้สูญกำไร 100 ลบ.


บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า เลื่อนการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกจะทำให้การรับรู้รายได้จาก Olympics ของ PLANB ที่ 536 ล้านบาทเลื่อนไปเป็นปี 2564 อิงสมมติฐานว่าลูกค้าเดิมยังยินดีจะสนับสนุนการแข่งขันต่อ โดยเบื้องต้น มองว่าจะกระทบ Net profit ปีนี้ที่ 109 ล้านบาท นอกจากนี้ ประเมินแนวโน้มผลประกอบการครึ่งแรกของปี 63 ยังได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการ FMCG ลดการใช้งบโฆษณาลง


เช่นเดียวกับ บล.เอเชีย พลัส ที่ประเมินว่าการเลื่อนการจัดการแข่งขันครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อการรับรู้รายได้บริหารสิทธิทางการตลาดซึ่งจะถูกเลื่อนการรับรู้ไปเป็นปีหน้าแทน ดังนั้น กำไรปีนี้จะลดลงราว 100 ล้านบาท จากเดิมที่ฝ่ายวิจัยประเมินว่า PLANB จะมีรายได้จากการบริหารสิทธิโอลิมปิกเข้ามาในปีนี้ จำนวน 500 ล้านบาท และคาดอัตรากำไรสุทธิ 20%


*** โควิด–19 ระบาด ฉุดอัตราการใช้สื่อโฆษณาของ PLANB หดตัวราว 50%


บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด - 19 ที่รุนแรงกว่าที่เคยประเมินไว้ หลังจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่งขึ้นอย่างเร่งตัว ทำให้มีมาตรการต่างๆ ออกมาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ไม่ว่าการเลื่อนจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ การปิดสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมไปถึงขอความร่วมมือทำงานที่บ้าน ส่งผลให้พฤติกรรมของคนเปลี่ยนไป ลดการเดินทางออกจากบ้านลง ซึ่งพฤติกรรมจะเป็นเช่นนี้อย่างน้อยที่สุดก็ถึงปลายเดือนเมษายน ตามประกาศ พรก.ฉุกเฉิน


สถานการณ์เหล่านี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกจสื่อโฆษณานอกบ้านทุกประเภาพ และธรกิจ Engagement ชอง PLANB คาดว่า เม็ดเงินโฆษณาสื่อนอกบ้านจะหดตัวอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรก และเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง หากสมารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่มีโอกาสสูงที่สื่อนอกบ้านจะไม่กลับมาสดใสเหมือนเดิม จากสภาวะเศรษฐกินที่มีแนวโฯ้มชะลอตัว


โดย บล.ทิสโก้ คาดว่า อัตราการใช้สื่อโฆษณาของ PLANB ในปีนี้จะลดลงประมาณ 50% ด้านงานกิจกรรมในส่วนการบริหารจัดการกีฬาและดนตรีคาดจะออกไปรถจนสถานการณ์ดีขึ้น โดยเบื้องต้นคาดจะเริ่มค่อยๆดีขึ้นในไตรมาส 4 ของปีนี้ เป็นต้น


*** คาดปีนี้กำไรทรุด 50% -กำไรลดลงมากกว่ารายได้ เพราะต้นทุน 70% เป็นต้นทุนคงที่


บล.ทิสโก้ ระบุว่า ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 63-64 ลดลงจากเดิม 50% และ 17% ตามลำดับ โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 386 ล้านบาท (-48%YoY) และคาดกำไรสุทธิปี 64 จะอยู่ที่ 807 ล้านบาท (+109%YoY) จาก 1) การคาดอัตราการใช้สื่อโฆษณานอกบ้านรวมปี 63 อยู่ที่เฉลี่ย 45% จากเดิมคาด 64% จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ซบเซากระทบต่อเนื่องถึงการใช้จ่ายสื่อโฆษณาคาดลดลง 


โดยคาดอัตราการใช้สื่อโฆษณาจะกลับมาที่ระดับเดิมได้ที่เฉลี่ย 64% ในปีหน้า 3) การบริหารสิทธิสื่อกีฬาโอลิมปิก ญี่ปุ่น คาดเลื่อนไปปีหน้า 4) สื่อโฆษณาในร้านสะดวกซื้อ 7-11 รายได้เต็มอัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ 300-900 ล้านบาท คาดอัตราการใช้สื่อปีนี้ 50% และปีหน้า 70% และ 5) คาดรายได้ธุรกิจบริหารสื่อลิขสิทธิเพลง iAM ลดลง 50% จากผลกระทบการแพร่ระบาดไวรัส โควิด-19 เช่นกันส่งผลให้งานอีเว้นท์ต่างๆชะลอตัวลง และคาดปี 64 รายได้จะกลับมาเพิ่มขึ้นจากการคาดสถานการณ์จะกลับมาปกติ


ด้าน บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า กำไรสุทธิของ PLANB ปีนี้จะลดลงประมาณ 47.4% ขณะที่รายได้จากการขายและบริการน่าจะลดลงประมาณ 17.5% โดยกำไรที่ปรับตัวลดลงมากกว่ารายได้นั้น เนื่องจากโครงสร้างต้นทุนส่วนใหญ่ของ PLANB กว่า 70% เป็นต้นทุนคงที่


*** นักวิเคราะห์แนะ “ซื้อ” หลังราคาลงเกินกว่าเหตุ ขณะที่ฐานะการเงินแข็งแกร่ง


บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า แม้กำไรปีนี้จะหดตัวลงแรงโดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 63 แต่เชื่อว่า ราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยร้ายต่างๆ ไปมากแล้ว ด้านฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง และหากสถานกาณณ์การแพร่ระบาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น เชื่อว่าราคาหุ้นน่าจะฟื้นตัวได้ดี จึงแนะนำ ซื้อ


เช่นเดียวกับ บล.ทิสโก้ ที่แนะนำให้ “ซื้อ”  โดยมองว่า ราคาหุ้นปัจจุบันได้ปรับลดลงมากเกินมูลค่าพื้นฐานจากความกังวลจากสถานการณ์โควิด -19 ในปีนี้ และคาดการใช้จ่ายโฆษณาโดยรวมจะเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นได้ในปีหน้าหลังจากสถานการณ์จะค่อยๆดีขึ้น โดยเฉพาะ PLANB ที่มีเป็นพันธมิตรกับ VGI, MACO ทำให้ทั้งกลุ่มรวมกันเป็นผู้นำสื่อนอกบ้านมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 80% และยังมีโอกาสการเติบโตจากการรลงทุนในสาขา 7-Eleven ราคาเป้าหมายใหม่อยู่ที่ 4.50 บาท จากเดิม 7.8 บาท อ้างอิงวิธี DCF (WACC 8.4%) ราคาหุ้นปัจจุบันมี PER20F อยู่ที่ 26.9X หรือ -1.7STDV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PLANB ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 40X บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมี D/E20F ที่ 0.6x


เวลานี้ราคาหุ้นหลายตัวในตลาด Underperform พื้นฐานตัวเองไปมาก รวมทั้ง PLANB หากประเมินว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด–19 จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ก็เป็นไปได้ว่า เม็ดเงินสื่อโฆษณา สื่อนอกบ้าน จะกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ และ PLANB ก็น่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมาได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง D/E ไม่ถึง 1 เท่า น่าจะสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนได้ว่า PLANB น่าจะสามารถขับเคลื่อนธุรกิจสื่อโฆษณาต่อไปได้ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ส่อแววถดถอย


s
RE : บล.คาดกำไรสุทธิ Planb ปี 63 อยู่ที่ 386 ล้านบาท (-48%YoY) โดนพิษโควิด-19 โอลิมปิกเลื่อนรับรู้ไปปี 64 [ ความเห็นที่ 1]
โพสต์เมื่อ: วันอังคาร 7 เมษายน 2563  14:17 น.
บล.เคทีบี(ประเทศไทย) : PLANB แนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5 บาท
31/03/2563
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.00 บาท (เดิม 8.00 บาท) อิง PER 36.3x เทียบเท่า -1SD Avg. PER 46.5x จากการปรับประมาณการกำไรสุทธิลง เพื่อสะท้อนผลกระทบจาก COVID-19 และการเลื่อนกีฬาโอลิมปิกเป็นปี 2021 เราประเมินผลประกอบการ 1H20E ลดลง YoY จาก
1) รายได้ที่ลดลง YoY ในทุกสื่อ,
2) Gross profit margin ที่ลดลง YoY จาก Utilization rate ที่ลดลง ดังนั้น เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E – 21E ลง -37% และ -12% ตามลำดับ เราประเมินกำไรสุทธิปี 2020E ที่ 529 ล้านบาท (-29% YoY)
  ราคาหุ้น ปัจจุบันปรับตัวลง -26% (เมื่อเทียบกับ SET) ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังการระบาดของ COVID-19 ที่รุนแรงขึ้นและการเลื่อนกีฬาโอลิมปิก เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว ดังนั้นจึงเป็นโอกาสให้เริ่มเข้าไป “ซื้อ” สะสม โดยเราคาดว่าราคาหุ้นจะเริ่มปรับตัวขึ้นใน 2H20E หลังสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ได้คลี่คลาย และเม็ดเงินโฆษณาเริ่มกลับมาฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปัจจุบัน PLANB เทรดอยู่ที่ PER = 20.7x ต่ำกว่าที่-2SD Avg. PER = 46.5x

Event: Company update
   กลุ่มสื่อ OOH ได้รับผลกระทบมากจาก COVID-19 ที่ยาวนานกว่าที่คาด เราประเมินผลประกอบการ 1H20E ลดลง YoY จาก
1) รายได้ที่ลดลง YoY ในทุกสื่อ จากการระบาดของ COVID-19 ในประเทศไทยที่ยังคงรุนแรงกว่าที่เราเคยคาด โดย Bank of Thailand ได้คาดการณ์ GDP ในปี 2020E ที่ -5.3% เราเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจะทำให้กลุ่มผู้ใช้งบโฆษณาหลัก คือ กลุ่ม FMCG และค่ายรถยนต์ที่ลดกำลังการผลิตลง อีกทั้งยังได้ลดการใช้งบโฆษณาลง นอกจากนี้ การประกาศพรก.ฉุกเฉินทำให้ผู้บริโภคลดการออกจากบ้าน ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มสื่อ OOH
2) Gross profit margin ที่ลดลง YoY จาก Utilization rate ที่ลดลง โดยใน 1H20E อยู่ที่ 55 - 58% ซึ่งลดลงจาก 1H19 ที่ 70% จากผลกระทบของ COVID – 19 ที่เริ่มรุนแรงขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.เราคาดว่าเม็ดเงินโฆษณาจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2H20E หลังสถานการณ์คลี่คลาย
   ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E/21E ลง เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2020E/21E ลง -37% และ -12% ตามลำดับ จากการปรับรายได้ปี 2020E/21E ลง -17.3%/ -4.9% ตามลำดับ และปรับ GPM ลงจาก Utilization rate ที่ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์เดิม เราประเมินกำไรสุทธิปี 2020E ที่ 529 ล้านบาท (-29% YoY) บนสมมติฐาน
1) รายได้รวมที่ 4,516 ล้านบาท (-7% YoY) จากผลกระทบของ COVID-19 ในช่วง 1H20E, การประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินส่งผลให้กิจกรรมต่างๆของ BNK48 ถูกเลื่อนออกไป, การเลื่อนการแข่งขันของฟุตบอลไทยลีก (ถึงวันที่ 18 เม.ย. 2020) และการเลื่อนจัดกีฬาโอลิมปิกไปเป็นปี 2021 ซึ่งส่งผลต่อการรับรู้รายได้ของ PLANB,
2) Gross profit margin ที่ปรับตัวลดลง จาก Utilization rate ที่ลดลง,
3) Interest expense ที่เพิ่มขึ้นจาก TFRS 16 สำหรับปี 2021E เราคาดกำไรสุทธิที่ 863 ล้านบาท (+63%YoY) โดยปีนี้จะเป็นปีที่ PLANB กลับมาเติบโตโดดเด่น จากการรับรู้รายได้จาก 7- Eleven จำนวน 1,500 สาขาเต็มปี และขยายสาขาเพิ่ม, รับรู้รายได้จากกีฬาโอลิมปิกที่ 563 ล้านบาท (อิง สมมติฐานที่สปอนเซอร์เดิมยังคงสนับสนุน), รายได้สื่อ OOH ฟื้นตัว และ Utilization rate ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ GPM ขยายตัว

Valuation/Catalyst/Risk
  ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.00 บาท (เดิม 8.00 บาท) อิง PER 36.3x (เทียบเท่า -1SD Avg. PER 46.5x) ปัจจุบัน PLANB เทรดอยู่ที่ PER = 20.7x ต่ำกว่าที่-2SD Avg. PER = 46.5x เรามองว่าปี 2020E ยังไม่ใช่ปีที่ดีของ PLANB เนื่องจากได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่เรายังเชื่อมั่นว่าผลประกอบการ PLANB จะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2021E จากความเป็นผู้นำสื่อ OOH เราคาดว่า PLANB จะสามารถ capture เม็ดเงินโฆษณาที่กลับมาฟื้นตัวในปี 2021E Key risks: เม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวกว่าคาด, COVID-19 ระบาดยาวนานกว่าคาด

s


คุณต้องสมัครสมาชิก ถึงจะโพสกระทู้ได้

สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ