ยินดีต้อนรับ กรุณา สมัครสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบ

Home » หุ้น EKH
เข้าชม : 209

Q3/63 ไวรัส RSV โรคมือเท้า-ปากในเด็ก ระบาด ทำให้มีอัตราใช้เตียง EKH มากขึ้น

โพสต์เมื่อ: วันจันทร์ 21 ธันวาคม 2563  10:29 น.
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : EKH แนะนำ“ซื้อ มูลค่าที่เหมาะสมที่ 5.60 บาท
25/11/2563

Event :
    • บริษัทให้ข้อมูล 4Q63 คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง  และทำกำไรสูงสุดของปีเป็นปีแรก จากปกติที่จะhigh season ในไตรมาส 3   โดยได้ผลบวกจากการระบาดของโรค RSV (Respiratory Syncytial Virus) iiuda ที่เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจโดยเฉพาะในเด็กเล็ก ทำให้ศูนย์กุมารเวช อัตราใช้บริการเพิ่มขึ้น  ภาพรวมปี 63 คาดรายได้ติดลบ 20%
    • ปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้ฟื้นตัวในระดับ  double digit  ซึ่งคาดว่าผู้ป่วยจีนจะกลับมารักษา IVF ได้     และการเติบโตต่อเนื่องจากศูนย์กุมารเวช และศูนย์เฉพาะทาง  โดยวางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 60 ล้านบาท เพื่อรองรับการปรับปรุงศูนย์ให้บริการต่าง ๆ เช่น การเปิดใช้ทางเชื่อมระหว่างอาคาร A-อาคารกุมารเวช. การปรับปรุงศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชั้น 2 อาคาร Aและ ชั้น 4 การปรับปรุงห้องพักผู้ป่วยใน  และขยายศูนย์ไต
                              
Our Take :
    • เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ  โดย 4Q63 คาดฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งพบว่า high season ของอุตสาหกรรมโรงพยาบาลจะยาวนานกว่าทุกปี  เพราะปีนี้มีพายุฤดูฝนเข้ามาอย่างต่อเนื่องประกอบกับในช่วงนี้ไวรัส RSV และโรคมือเท้าและปากในเด็กกำลังระบาด ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีอัตราการใช้พื้นที่เตียงในส่วนของกุมารเวชเต็มเกือบ 100%  และหลังรัฐผ่อนคลายให้ต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เป็นผลบวกต่อ  EKH ซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติราว 12% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจีนที่รอมารักษา ที่ศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF)
  โดย EKH มีการยื่นขอเข้าร่วมโครงการ ใช้โรงพยาบาลเป็น Alternative State Quarantine : ASQ และ EKH ให้ข้อมูลว่าหลังรัฐบาลเปิดประเทศ กลุ่มลูกค้าต่างประเทศของ EKH มีการยื่นขอไปแล้ว 70 ราย มีผ่านแล้ว 20 ราย   เราคาดกำไรปี 2563 ที่ 42 ล้านบาท (-74%YoY)   ขณะที่คาดกำไรจะฟื้นตัวปี 2564 เป็น 146 ล้านบาท (+247%YoY) 
    • คงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าผลประกอบการผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว และจะฟื้นตัวเด่นในปี 2564 หลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย  ด้านสถานะทางการเงินของ EKH ค่อนข้างแข็งแกร่ง ไม่มีภาระหนี้สิน  เราประเมินมูลค่าที่เหมาะสม ปี 2564  ที่ 5.60 บาท อิงวิธี DCF ด้วย WACC ที่ 9.5% และ Terminal Growth 2% 

-------------------------------------------


บล.เคจีไอ : EKH แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.80 บาท
02/12/2563

 

แนวโน้มแข็งแกร่งมากขึ้นใน 2H63 และปี 2564
Event
  ปรับประมาณการ

lmpact
กำไรสุทธิงวด 9M63 เท่ากับประมาณการกำไรเดิมสำหรับปี
  หลังจากที่กำไรสุทธิใน 3Q63 ออกมาดีเกินคาดที่ 16 ล้านบาท (-66.9% YoY แต่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ) แนวโน้มผลประกอบการของ EKH ในส่วนธุรกิจโรงพยาบาลกำลังฟื้นตัว โดยผู้ป่วยที่มาใช้บริการมี intensity สูงขึ้น ทั้งนี้ อัตรากำไรใน 3Q63 ดีขึ้น โดยอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ QoQ เป็น 29.2% จาก 17.2% ใน 2Q63 แม้ยังคงต่ำกว่าระดับปกติ (จากอัตรากำไรขั้นต้นของ EKH ใน 3Q62 ที่สูงถึง 44.7%

  ) จากผลกระทบของ COVID-19 ซึ่งทำให้รายได้ลดลง YoY และ margin ของบางธุรกิจ (IVF, ศูนย์ฉุกเฉิน และศูนย์กุมารแพทย์) ก็ลดลงอย่างมากใน 2Q แต่ในอีกด้านหนึ่ง ค่าใช้จ่ายของบริษัทก็ลดลง เนื่องจากไม่มีกิจกรรมทางการตลาดและมีการลดค่าล่วงเวลาพนักงานลงในช่วงที่เกิดโรคระบาด ทั้งนี้ กำไรสุทธิงวด 9M63 อยู่ที่ 27 ล้านบาท เท่ากับประมาณการเดิมสำหรับปีนี้ของเรา
 
มุมมองทางบวกต่อผลการดำเนินงานใน 4Q63 และปี 2564
  เราคาดว่าผลประกอบการของ EKH จะดีขึ้นต่อเนื่องใน 4Q63 เนื่องจาก i) ผู้ป่วยที่ชำระเงินสดเพิ่มขึ้น (ทั้ง OPD และ IPD) จากการติดเชื้อ Respiratory Syncytial Virus (RSV) ในเด็กทารก ii) จำนวนผู้ใช้บริการ IVF ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และ iii) คุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่สถานการณ์โรคระบาดเลวร้ายหนักใน 2Q63 นอกจากนี้ เรายังคาดว่าผลการดำเนินงานของ EKH จะพลิกฟื้นในปี 2564F ซึ่งต่อเนื่องจาก 2H63

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี FY63-64
  เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี FY63-64F ขึ้นอีก 36.8% และ 13.0% หลังจากที่ปรับเพิ่มสมมติฐาน margin ของ EKH เป็น 27.0% และ 37.0% (จากเดิมที่ 25.0% และ 35.0%) ตามลำดับ ซึ่งส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิของเราในปี 2563 เพิ่มขึ้นเป็น 37 ล้านบาท (-77.0% YoY) และในปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 104 ล้านบาท (+181.7% YoY)

   เรายังคงใช้ประมาณการรายได้ปี 2563-64F เท่าเดิมที่ 620 ล้านบาท (-30.0% YoY) และ 744 ล้านบาท (+20.0% YoY) ซึ่งสะท้อนว่า EKH จะได้อานิสงส์จากโมเมนตั้มการรักษาพยาบาลและบริการ IVF จาก 2H63 นอกจากนี้ เรายังคงใช้สมมติฐาน SG&A/รายได้ปี 2563-64F ไว้ที่ 22% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขจริงที่ออกมาในไตรมาสก่อน

Valuation & Action
  หลังจากที่ปรับประมาณการใหม่แล้ว เรายังคงคำแนะนำซื้อ และให้ราคาเป้าหมาย DCF ปี 2564 ใหม่ที่ 5.80 บาท (ใช้ WACC ที่ 9% และ TG ที่ 3%) จากเดิมที่ 5.10 บาท ทั้งนี้ เราชอบ EKH จากแนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการในปี 2564F

Risks
  การระบาดของ COVID-19, ปัญหาเสถียรภาพการเมืองรอบใหม่ของไทย และการก่อการร้ายครั้งใหญ่


s


คุณต้องสมัครสมาชิก ถึงจะโพสกระทู้ได้

สมัครสมาชิก เข้าสู่ระบบ