|
โพสต์เมื่อ: วันอังคาร 1 มิถุนายน 2564 17:10 น.
12 เมษายน 2564 | 13:36 น.
https://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?id=aHVneFJNeXljb0k9 JKN ปิดซื้อขายภาคเช้า บวกแรง 6.73% สวน SET Index ลงถึง 17.31จุด คาดรับปัจจัยหนุนซื้อช่อง "New18" ขณะที่โบรกฯ มองดีลนี้หนุน JKN แต่ระยะกลาง – ยาว มีความเสี่ยงยังต้องใช้เวลาพิสูจน์ ชูงบปี 64 โตเด่น 20 - 53%YoY - "กัญชง"ยังเป็นอัพไซด์ *** ปิดเช้าบวก 6.73% สวน SET ดิ่ง 17.31 จุด ดีลซื้อ"New18"หนุน ราคาหุ้น บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ช่วงเช้าวันนี้ (12 เม.ย.64) ดีดขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ราคา 11.20 บาท ก่อนปิดซื้อขายภาคเช้าด้วยราคา 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือ 6.73% มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้น 159.54% จาก 5 วันทำการก่อนหน้า โดยสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้น JKN ช่วงเช้าวันนี้ ปรับตัวขึ้นร้อนแรง สวนทางดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ที่ปรับตัวลง 17.31 จุด หรือ 1.11% เนื่องจาก JKN กำลังได้รับปัจจัยหนุน หลังเข้าลงทุนในบริษัท ดีเอ็น บรอดคาสท์ จำกัด (DN) ซึ่งเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ และประกอบกิจการโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ หมวดหมู่ข่าวสารและสาระ ช่อง New18 การเข้าลงทุนในรายการดังกล่าวของ JKN เป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดจากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม (ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน) จำนวน 50 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 100% ของหุ้นทั้งหมดของ DN รวมมูลค่า 5 ล้านบาท และการรับโอนสิทธิเรียกร้องในการรับชำระคืนเงินกู้และดอกเบี้ยจากเจ้าหนี้ของ DN รวมมูลค่า 2.38 พันล้านบาท โดย JKN จะต้องชำระค่าตอบแทนในการรับโอนสิทธิเรียกร้องดังกล่าว เป็นจำนวนประมาณ 1.05 พันล้านบาท ให้แก่เจ้าหนี้ของ DN รวมมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1.06 พันล้านบาท ด้าน บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี เอสที ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า JKN ใช้แหล่งเงินทุน 2 ส่วน ในการเข้าลงทุนรายการดังกล่าว ประกอบด้วย กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ ประมาณ 410 ล้านบาท ประกอบกับ เงินกู้ระยะยาวจากสถาบันการเงิน จำนวน 450 ล้านบาท ในส่วนที่เหลืออีก 200 ล้านบาท JKN จะผ่อนชำระให้กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ New18 เป็นระยะเวลา 3 ปี บล.เคทีบี เอสที ระบุว่า มีมุมมองเป็นบวกจากประเด็นดังกล่าว หาก JKN สามารถปรับช่อง New18 เป็น JKN 18 สำเร็จ จะช่วยให้เรตติ้งของช่องปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากช่อง New18 จะมีคอนเทนต์เพิ่มขึ้น จาก JKN และ JKN CNBC นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มช่องทางการขายสินค้าให้ JKN อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ, ความงาม และเครื่องดื่ม มีรายได้ราว 10 - 15 ล้านบาทต่อเดือน ส่วน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) มองว่า ดีลดังกล่าว จะช่วยผลักดันธุรกิจเดิมของ JKN ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายคอนเทนต์ ซึ่ง JKN สามารถนำคอนเทนต์ที่มีมาออกอากาศได้ โดยคาดว่า JKN จะใช้โมเดลธุรกิจเหมือนกับ RS ที่จะนำเวลาออกอากาศมาโฆษณาขายสินค้า และเพิ่มรายได้จากธุรกิจขายสินค้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงแรก JKN อาจต้องใช้งบการตลาดสูง ในการขยายธุรกิจทั้งทีวีดิจิทัล และธุรกิจจำหน่ายสินค้า แต่จะประสบความสำเร็จได้เหมือน RS หรือไม่ ยังต้องรอดูผลงานต่อไป ขณะที่หากมองภาพธุรกิจทีวีดิจิทัลในระยะกลางถึงยาว เป็นธุรกิจมีการแข่งขันสูง และกำลังถูก Disruption จาก Streaming Platform*** งบครึ่งปีแรกยังสดใส backlog 840 ลบ.หนุน นายธีรภัทร์ เพ็ชรโปรี ผู้อำนวยการสายการเงิน JKN เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 64 ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างโดดเด่น โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้ที่ยังขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับ JKN ยังมีโอกาสรับงานใหม่เพิ่มเติม ขณะเดียวกัน JKN ยังมีรายได้ที่รอรับรู้ (backlog) เป็นจำนวนมาก สอดคล้องกับ บล.เคทีบี เอสที ที่มองว่ากำไรสุทธิของ JKN ในช่วงครึ่งแรกของปี 64 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 179.55 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักจาก JKN มี backlog ที่รอการรับรู้จำนวน 840 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถบันทึกเป็นรายได้ทั้งหมดในช่วงครึ่งแรกของปี 64 ก่อนหน้านี้ JKN ได้เซ็นต์สัญญาความร่วมมือ (MOU) กับ DOD เพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้ากัญชง จำนวน 10 รายการโดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของผลิตภัณฑ์ในช่วงครึ่งหลังของปี 64 ซึ่ง JKN มีแผนการจัดจำหน่ายแบบ exclusive ผ่านช่องทางออนไลน์ และสื่อโทรทัศน์ครบทุกช่อง โดย บล.เคทีบี เอสที ประเมินว่า JKN จะเป็นบริษัทกลุ่มแรกๆ ที่รับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์กัญชง เนื่องจาก Siam Herbal Tech ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ DOD เป็นบริษัทมหาชนเพียงรายเดียวในกลุ่มแรก ที่ได้รับใบอนุญาตนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง ซึ่งคาดว่า JKN จะเริ่มรับรู้รายได้จากสินค้าดังกล่าวในช่วงไตรมาส 4/64 ซึ่งทุกๆยอดขาย 100 ล้านบาท ของผลิตภัณฑ์กัญชง จะช่วยเพิ่มกำไรสุทธิให้ JKN ราว 20 ล้านบาท บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ JKN ไว้ที่ 479 ล้านบาท เติบโตขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการเติบโตของธุรกิจเดิม และอัตรากำไรที่ดีของธุรกิจใหม่ ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ JKN ไว้ที่ 383 ล้านบาท เติบโตขึ้น 22% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยหนุนจากรายได้คอนเทนต์ ยังเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ, แผนแตกไลน์ธุรกิจใหม่ ในการผลิตจำ หน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม และสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค ผ่านบริษัทลูกเจเคเอ็น โกลบอล ลิฟวิ่ง เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นการกระจายรายได้เพิ่มขึ้น และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจคอนเทนต์เป็นหลัก ส่วนนักวิเคราะห์อีก 2 รายประเมินกำไรสุทธิปี 64 ของ JKN ไว้ ดังนี้
ทั้งนี้ ประมาณการกำไรสุทธิปี 64 ของทุกโบรกเกอร์ ยังไม่ได้รวมรายได้จากธุรกิจกัญชงที่คาดว่า JKN จะสามารถรับรู้รายได้อย่างเร็วที่สุดในช่วงไตรมาส 4/64 ไว้ในประมาณการ ทำให้ประมาณการดังกล่าว อาจมีอัพไซด์ หาก JKN สามารถรับรู้รายได้จากผลิตภัณฑ์กัญชงได้ตามกำหนด จากการสำรวจความคิดเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีมุมมองเหมือนกันคือแนะนำ"ซื้อ" เนื่องจากมองว่า ผลประกอบการปี 64 ของ JKN ยังคงเติบโตโดดเด่น จากการพยายามแตกไลน์ธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจหลักอย่างคอนเทนต์ที่มีการแข่งขันสูง
แม้ดีลซื้อช่อง New18 ยังไม่สามารถสร้างความมั่นใจให้นักวิเคราะห์ได้อย่างเป็นเอกฉันท์ ว่าในระยะยาวจะเป็นการลงทุนที่ถูกต้องของ JKN หรือไม่ แต่สิ่งที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มั่นใจ คือ การเติบในระยะสั้น ที่มีแนวโน้มโดดเด่น ทั้งในงวดครึ่งแรกปี 64 และงบทั้งปี จากโมเดลธุรกิจที่สามารถฉายการเติบโตออกมาได้อย่างเป็นรูปธรรม... |
|