บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE ได้ให้ข้อมูลในงาน Oppotunity day โดยมี นายจักรพงส์ สุเมธโชติเมธา กรรมการผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้ให้ข้อมูล ระบุ ตั้งเป้า 3-5 ปี รายได้แตะ 1 พันล้านบาท จากปีนี้คาด 390-400 ล้านบาท พร้อมวางเป้าปี 62 กำลังผลิตไฟฟ้าแตะ 30 เมกะวัตต์ เล็งทำโซลาร์รูฟ-โรงไฟฟ้าขยะ และอยู่ระหว่างหาพันธมิตรร่วมลงทุนปั๊ม NGV คาดชัดเจนปลายปีนี้ โดยมีสาระสำคัญดังนี้
- บริษัทตั้งเป้า 3-5 ปี รายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดที่ 390-400 ล้านบาท โดยมาจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่มีแนวโน้มการเติบโตขึ้น ประกอบกับ มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในรูปแบบเชิงพาณิชย์เข้าสู่ระบบมากขึ้น รวมไปถึงมีการบันทึกรายได้จากธุรกิจการผลิตและ จำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัด (CBG) ตามโครงการ CBG Station
- สำหรับปีนี้ปริมาณอัดก๊าซ NGV จะเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 630 ตัน/วัน จากปี 60 อยู่ที่ 579 ตัน/วัน เป็นผลมาจากยอดใช้ NGV ของตลาดรวมเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ตัน/วัน จากปีก่อนอยู่ที่ 6,500-6,700 ตัน/วัน
-นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/61 จะเริ่มมีการบันทึกรายได้จากโครงการ CBG Station อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา โดยโครงการดังกล่าวมีขนาดกำลังการผลิตก๊าซ 9 ตัน/วัน มูลค่า 80 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 75% ในบริษัท อาร์อี ไบโอฟูเอลส์ จำกัด ซึ่งกำหนดผลิตและจำหน่ายก๊าซไบโอมีเทนอัดตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 61 คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมียอดขายก๊าซเฉลี่ย 7-9 ตัน/วัน และ สร้างรายได้ประมาณ 40-45 ล้านบาท/ปี
- ประกอบกับ บริษัทจะได้รับบันทึกเงินสนับสนุนจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) จำนวน 12 ล้านบาทด้วย เนื่องจากการลงทุนครั้งนี้ได้รับการอนุมัติเงินทุนสนับสนุนจากโครงการส่งเสริมการผลิตไบโอมีเทนอัด ในสถานประกอบการที่มีระบบก๊าซชีวภาพจาก พพ.ด้วย
“ปีนี้จะมีการบันทึกกำไรพิเศษจากการขายที่ดิน 101 ไร่ ที่ จ.สงขลา มูลค่ารวมประมาณ 60 ล้านบาท หรือ ราคาขายไร่ละ 500,000-600,000 บาท โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ซื้อ 3-4 ราย ซึ่งจะสรุปความชัดเจนได้ภายในช่วงที่เหลือของปีนี้”นายจักรพงส์ กล่าว
- ในขณะเดียวกันบริษัทตั้งเป้าหมายภายในระยะ 5 ปี จะถูกคัดเลือกให้เข้าคำนวณในดัชนี SET100 ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบัน และ มีความสนใจเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น โดยในช่วงเวลาดังกล่าวบริษัทจะพัฒนาธุรกิจเพื่อให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น และ จะผลักดันให้มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเพิ่มเป็นระดับ 10,000 ล้านบาท
- ส่วนในปี 62 บริษัทตั้งเป้าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็นระดับ 30 เมกะวัตต์ มาจากกำลังการผลิตไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวล จำนวน 8 เมกะวัตต์ และ จากก๊าซชีวภาพจำนวน 15 เมกะวัตต์ ขณะส่วนที่เหลือจะมาจากพลังงานด้านอื่น เช่น โซลาร์รูฟท็อป ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าขยะ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูลใบอนุญาตขายไฟฟ้า (PPA) ที่คาดว่ารัฐบาลจะเปิดรับซื้อในอนาคต
-นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อสร้างสถานีบริการเติมก๊าซ NGV ตามแนวท่อ และ การหาพันธมิตรผู้ประกอบการสถานีบริการก๊าซ NGV เพื่อให้ผู้ประกอบการที่ใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในการเดินรถ โดยคาดว่าทั้งในรูปแบบก่อสร้างเอง และ รูปแบบพันธมิตร รวมราว 5-6 แห่ง เพื่อรองรับการความต้องการใช้ของลูกค้า ซึ่งจากที่บริษัทได้สำรวจจากลูกค้ามีความต้องการใช้ก๊าซ NGV อยู่ 150-200 ตันต่อวัน โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในช่วงปลายปีนี้
"หลังจากที่เราได้มีการพูดคุยกับผู้ประกอบการหลายๆ รายแล้วพบว่า ความต้องการใช้ NGV มีอยู่จำนวนมาก แต่สถานีบริการไม่สามารถรองรับกับพื้นที่การเดินทางได้ เราจึงมีแนวคิดที่จะสร้างสถานีบริหารเพื่อรองรับลูกค้าดังกล่าว และ อีกส่วนหนึ่งจะมาจากการเจรจากับสถานีบริการที่มีอยู่แล้วเพื่อให้ลูกค้าเข้าไปเติมก๊าซแล้วแบ่งผลประโยชน์กัน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผู้ประกอบการหันมาใช้ก๊าซ NGV มากขึ้น"นายจักรพงส์ กล่าว
|