พิมพ์

อาหารสำหรับคนเป็นแผลในกระเพาะอาหาร จาก เชื้อ Helicobacter pylori (H. Pylori)

โพสต์เมื่อ: วันจันทร์ 27 เมษายน 2563  12:14 น.

โรคกระเพาะอาหาร หรือ โรคเป็นแผลในกระเพาะอาหาร โดยจะมีอาการคล้ายกับโรคกรดไหลย้อน หรือ โรคนิ่วในถุงน้ำดี จากไขมันเกาะตัวอุดตัน

มักจะมีอาการดังนี้
ปวดจุก-แน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือบริเวณเหนือสะดือ
ท้องอืด มีลมหรือมีแก๊สในท้องมาก ในเวลาท้องว่าง
มีแก๊สในท้อง ท้องแข็งหลังทานอาหาร บริเวณใต้ราวนมด้านซ้าย
อาจมีการแสบร้อนที่อกร่วมด้วย
ต้องเรอ หรือผายลมจึงจะรู้สึกดีขึ้น

ปัจจุบันมีงานวิจัยระบุว่า การติดเชื้อ Helicobacter pylori (H. Pylori) ถือเป็นสาเหตุสำคัญของโรคกระเพาะ       

          - หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสจัด เผ็ดและเปรี้ยว และลด กาแฟ คาเฟอีน
          - บ๊วยดอง, บ๊วยสามรส ช่วยต้านเชื้อ Helicobacter pylori (H. Pylori)
          - น้ำองุ่นแดง น้ำแครนเบอรี่ 100% วันละ 150-250 ml. ดื่มตอนเช้า ก่อนทานอาหารเช้า ในน้ำองุ่นแดงจะมีสารโพลีฟีนอล Polyphenol สูง โดยเฉพาะน้ำแครนเบอ
รี่ มีสาร Proanthocyanidins (โปรแอนโทรไซยานิดิน) ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายเกาะที่ผนังของทางเดินอาหาร จะทำให้เชื้อ H. Pylori เอช ไพโรไล เป็นง่อยและอ่อนแอลง จนไม่สามารถเกาะเยื่อบุกระเพาะอาหารได้ แต่อย่ากินมากเกินไปจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้ อาหารทุกอย่างควรรับประทานแต่พอดี
          - Grape Seed สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
มีสาร Proanthocyanidins (โปรแอนโทรไซยานิดิน) ในแต่ละยี่ห้อไม่เท่ากัน
          - พลัม, ลูกพรุน มีสารโพลีฟีนอล Polyphenol สูงมาก 282-922 mg. ต่อ 100 กรัม
          - น้ำแอปเปิ้ล อุดมไปด้วยสารโปรไซยานิดิน Procyanidin หนึ่งในสารโพลีฟีนอล Polyphenol ที่มีปริมาณถึงร้อยละ 60 ของสารประกอบโพลีฟีนอลในแอปเปิ้ล และแอปเปิ้ลอุดมไปด้วย "แพคติน" มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ ช่วยให้ขับถ่ายคล่อง
          - ผงกล้วยดิบ มีสารที่ชื่อว่า “แทนนิน” มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย H. Pylori เอช ไพโรไล เป็นพรีไบโอติกส์ ซึ่งเป็นอาหารของโปรไบโอติกส์ด้วย กล้วยดิบมีสาร sitoindoside ซึ่งเป็นสารในกลุ่มสเตียรอยด์ การใช้ในระยะยาวจึงต้องระมัดระวังเรื่องผลข้างเคียง
          - กล้วย ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นกล้วยหอม กล้วยไข่ จะมีสารที่ชื่อว่า “เซโรโทนิน” ที่มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสร้างเยื่อเมือกตามธรรมชาติออกมาเคลือบแผล นอกจากนี้ เซโรโทนิน ยังมีอยู่ในอาหารประเภทอื่นๆ อีก เช่น อะโวคาโด ปลาทูน่า ขมิ้น ปลาแซลมอน เต้าหู้ ถั่ว ฯลฯ
          - ชาเขียว ชาจีน ชาร้อนอื่นๆ มีสารที่ชื่อว่า “แทนนิน” ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย H. Pylori เอช ไพโรไล สารแทนนินหากร่างกายได้รับมากเกินไป อาจทำให้รู้สึกท้องอืดหรือท้องผูกเอาได้ ดังนั้นจึงไม่ควรแช่ถุงชาในน้ำร้อนนานเกินไป
          - กระชายดำ ช่วยลดการบุกรุกเซลล์ และ ช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อ H. Pylori เอช ไพโรไล
          - โปรไบโอติกส์ Probiotic ได้แก่ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus), แอซิโดฟิลัส (Acidophillus), บิฟิโดแบคทีเรีย (Bifidobacteria) เป็นจุลินทรีย์ตัวดี ที่ช่วยต่อสู้กับเชื้อ H. Pylori เอช ไพโรไล ได้ มักมีอยู่ใน โยเกริ์ต กิมจิ ซุปมิโสะ ฯลฯ
          - พรีไบโอติกส์ คือ อาหารสำหรับโปรไบโอติกส์ Probiotic ช่วยให้โปรไบโอติกส์เติบโต และขยายพันธุ์ได้ดี เช่น น้ำผึ้ง อาร์ติโชก กระเทียม ต้นหอม หอมหัวใหญ่ กล้วยดิบ ธัญพืช ฯลฯ ควรกินสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
          - โสมแดงเกาหลี มีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าโสมช่วยรักษาและยับยั้ง ไม่ให้เกิดการลุกลามของอาการกระเพาะอาหารอักเสบได้เป็นอย่างดี แต่กินมากเกินไประวังเกิดภาวะร้อนเกิน ร้อนใน
          - บล๊อคโคลี่ สารซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ในบร็อคโคลี่มีสรรพคุณในการป้องกันและกำจัดเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori วิธีปรุง ควรลวกน้ำร้อน หรือผัดให้สุกเร็วๆ ไม่ควรโดนความร้อนนานจะทำให้สารสำคัญสูญเสียไป
          - กระเจี๊ยบเขียว สารประกอบไกลโคไซเลต (glycosylated compounds) ซึ่งประกอบด้วย โพลีแซกคาไรด์ (polysaccharides) และไกลโคโปรตีน (glycoproteins) ในกระเจี๊ยบเขียว มีฤทธิ์ยับยั้งความสามารถในการเกาะเยื่อบุผิวกระเพาะอาหารของเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลริ (helicobacter pylori) เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร แต่สารไกลโคไซเลต จะมีฤทธิ์ลดลงเมื่อถูกความร้อน มี “เพคติน” และ Mucilage สารเมือกช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร และ เป็นพรีไบโอติกส์ ซึ่งเป็นอาหารของโปรไบโอติกส์ด้วย
          - ขมิ้นชัน 500 mg. + พริกไทย ขมิ้นชันมีศักยภาพในยับยั้งการเติบโตของ H.pylori  ขมิ้นชันจะต้องกินคู่กับพริกไทยจะทำให้ร่างกายดูดสารสำคัญจากขมิ้นได้เพิ่มขึ้นอย่างดี
ขมิ้นชันมีฤทธิ์ขับน้ำดี สารสำคัญในการออกฤทธิ์ คือ Curcumin และ P- tolyl- methylcarbinol ซึ่งสามารถขับน้ำดีและกระตุ้นการสร้างน้ำดี หากทานขมิ้นชันร่วมกับ omeprazole จะให้ฤทธิ์ไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ได้ triple therapy (ยาปฏิชีวนะฆ่าเชื้อ H. Pylori) ข้อมูลทดลองจาก http://www.smj.ejnal.com/e-journal/showdetail/?show_detail=T&art_id=1313
          - อาร์ติโชค (Artichoke) ที่ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรบำรุงตับชั้นดีนั้นจะช่วยปกป้องฟื้นฟูดูแลตับให้กลับมาแข็งแรง มีสารสำคัญชื่อ ไซนาริน Cynarin ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำดี ลดไขมันเลว ลดภาวะไขมันพอกตับ ช่วยบรรเทาอาการตับอักเสบได้เป็นอย่างดี
          - ชะเอม รากของชะเอมสามารถบรรเทาการอักเสบและการบาดเจ็บที่กระเพาะอาหาร เป็นที่รู้จักกันเพื่อลดการแพร่กระจายของ Helicobacter pylori
          - เพชรสังฆาต มีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์หลั่งกรด เหมือนกับยาแผนปัจจุบัน Omeprazole ลดการทำลายเนื้อเยื่อในกระเพาะอาหาร ช่วยต้านเชื้อ H. Pylori และ ช่วยลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ แต่ไม่ควรกินมากเกินไป
          - นมผึ้ง 
Royal Jelly เป็นเสมือนวิตามินรวมในเม็ดเดียว ช่วยดูแลสุขภาพองค์รวม และบำรุงผิวพรรณ ปรับสมดุลฮอร์โมน นมผึ้งมีสารเฉพาะ กรดไขมัน 10-HDA เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า 10-HDA เป็นยาปฏิชีวนะจากธรรมชาติ สามารถออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด โดยออกฤทธิ์ได้สูงถึง 75% นอกจากนี้กรดไขมันยังออกฤทธิ์ปราบเชื้อที่ดื้อยาปฏิชีวนะทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งกรดไขมัน 10-HDA จะมีอยู่ในนมผึ้งเท่านั้น เนื่องจากนมผึ้งเป็นสารอาหารจากธรรมชาติ จึงสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย และไม่มีผลข้างเคียงตกค้างในร่างกาย ข้อดีคือ ไม่ทำให้เชื้อโรคต่างๆ ดื้อยาเหมือนทานยาปฏิชีวนะ แต่นมผึ้งในท้องตลาดมีหลากหลายยี่ห้อ ดังนั้นจึงควรเลือกซื้อให้ดี และตั้งใจอ่านฉลาก เพราะมีนมผึ้งบางยี่ห้อที่มีส่วนผสมของน้ำมัน+โซเดียม จำนวนมาก ควรอ่านฉลากส่วนผสมให้ดีก่อนซื้อ ถ้าทานไปคุณอาจจะเป็นอ้วนและเป็นสิวได้ ดังนั้น ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีนมผึ้ง Royal Jelly 100% เท่านั้น และมีค่า กรดไขมัน 10-HDA ระบุในฉลากอย่างชัดเจน ควรมากกว่า 24 mg. หรือ 6%